ขบวนรถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากอียิปต์เริ่มเดินทางเข้าสู่ฉนวนกาซาแล้วในวันนี้ (27 ก.ค.) หลังกองทัพอิสราเอลประกาศ "หยุดยิงทางยุทธวิธี" ชั่วคราวในบางพื้นที่ เพื่อเปิดทางให้การลำเลียงความช่วยเหลือที่จำเป็นอย่างยิ่งเข้าสู่ดินแดนที่เสียหายจากสงคราม ท่ามกลางวิกฤตความอดอยากที่ทวีความรุนแรงขึ้น
ภาพจากสำนักข่าวเอเอฟพีทีวียืนยันการเคลื่อนขบวนรถผ่านประตูด่านราฟาห์ฝั่งอียิปต์ อย่างไรก็ตาม การลำเลียงครั้งนี้ต้องใช้เส้นทางอ้อมไปยังจุดผ่านแดนเคเรม ชาลอม ที่ควบคุมโดยอิสราเอลเพื่อตรวจสอบ เนื่องจากจุดผ่านแดนราฟาห์ฝั่งปาเลสไตน์ได้รับความเสียหายหนักและถูกกองทัพอิสราเอลยึดครองตั้งแต่ปีที่แล้ว
กองทัพอิสราเอลแถลงว่า การหยุดยิงรายวันจะมีผลระหว่างเวลา 10:00 น. ถึง 20:00 น. โดยจำกัดวงในพื้นที่ที่ไม่มีการสู้รบ เช่น อัลมาวาซี, เดียร์ เอลบาลาร์ และบางส่วนของกาซาซิตี พร้อมยืนยันว่าได้เปิดเส้นทางที่ปลอดภัยเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ขบวนรถของสหประชาชาติ (UN) และองค์กรอื่น ๆ
การเปิดทางให้ความช่วยเหลือมีขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากนานาชาติที่เพิ่มสูงขึ้นต่อวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซา ซึ่งก่อนหน้านี้หลายประเทศรวมถึงอิสราเอลได้ใช้วิธีหย่อนสิ่งของช่วยเหลือทางอากาศ แต่กลับถูกวิจารณ์จากเจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรม
ฟิลิปป์ ลาซซารินี ผู้อำนวยการ UNRWA เตือนว่า การหย่อนสิ่งของช่วยเหลือทางอากาศนั้น "สิ้นเปลือง ขาดประสิทธิภาพ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตต่อพลเรือนที่กำลังหิวโหยได้"
ขณะเดียวกัน อิสราเอลยืนกรานว่าไม่ได้จำกัดความช่วยเหลือและกล่าวหาว่าหน่วยงานของ UN บางแห่งล้มเหลวในการแจกจ่ายสิ่งของ สวนทางกับองค์กรบรรเทาทุกข์ต่าง ๆ ที่กล่าวหากองทัพอิสราเอลว่าจงใจจำกัดการเข้าถึงและสร้างสภาวะอันตรายใกล้ศูนย์แจกจ่ายความช่วยเหลือ
สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งตอกย้ำความรุนแรง โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (26 ก.ค.) หน่วยงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของกาซารายงานว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 50 รายจากการโจมตีของอิสราเอล ซึ่งบางส่วนเสียชีวิตขณะกำลังรอรับความช่วยเหลือ