นายจอห์น เคลลีย์ นักการทูตอาวุโสของสหรัฐ กล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า เขาต้องการให้รัสเซียและยูเครนบรรลุข้อตกลงยุติสงครามภายในวันที่ 8 ส.ค.
"ทั้งรัสเซียและยูเครนจะต้องเจรจาหยุดยิงและสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน ถึงเวลาที่ต้องทำข้อตกลงแล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าสิ่งนี้ต้องเกิดขึ้นภายในวันที่ 8 สิงหาคม และสหรัฐพร้อมที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อรับประกันสันติภาพ" นายเคลลีย์กล่าวก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ว่า สหรัฐจะเริ่มใช้มาตรการภาษีและมาตรการอื่น ๆ กับรัสเซีย "ภายในเวลา 10 วันนับจากนี้" หากรัสเซียไม่แสดงความคืบหน้าในการยุติสงครามในยูเครน
ทั้งนี้ รัสเซียและยูเครนได้จัดการเจรจา 3 รอบที่นครอิสตันบูลในปีนี้ ซึ่งนำไปสู่การแลกเปลี่ยนเชลยศึกและร่างของทหารที่เสียชีวิต แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในการยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี
"เราตั้งใจจะเดินหน้าเจรจาต่อไปที่อิสตันบูล" นายดมีทรี โพลยันสกี รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวต่อที่ประชุม แต่เสริมว่า "แม้จะมีการพบกันที่อิสตันบูล แต่ในโลกตะวันตก กลุ่มที่ต้องการสงครามก็ยังไม่หายไป เรายังคงได้ยินเสียงของผู้ที่คิดว่าการทูตเป็นเพียงเครื่องมือในการวิจารณ์และกดดันรัสเซีย"
ด้านนางคริสตินา ฮาโยวิชซิน รองเอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหประชาชาติ กล่าวต่อ UNSC ว่า "เราต้องการสันติภาพที่ครอบคลุม เป็นธรรม และยั่งยืน โดยยึดตามหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ และเราขอย้ำว่า การหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขเป็นสิ่งจำเป็น นี่คือก้าวแรกสู่การยุติสงครามรุกรานของรัสเซียที่มีต่อยูเครน"