กลุ่มฮามาสออกมายืนยันในวันเสาร์ (2 ส.ค.) ว่า จะไม่ยอมปลดอาวุธจนกว่าจะมีการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นการตอบโต้ถ้อยแถลงของสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหรัฐอเมริกาประจำตะวันออกกลาง ที่กล่าวว่าฮามาสพร้อมที่จะปลดอาวุธ
แถลงการณ์ระบุว่า กลุ่มฮามาสจะไม่หยุดต่อต้านและจะไม่ยอมปลดอาวุธจนกว่าสิทธิของชาติจะได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือ การสถาปนารัฐปาเลสไตน์ที่เป็นอิสระและมีอำนาจอธิปไตยอย่างสมบูรณ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ วิตคอฟฟ์ได้พบกับครอบครัวของตัวประกันชาวอิสราเอลในการชุมนุมประท้วงที่กรุงเทลอาวีฟ และเขาระบุว่า "ฮามาสกล่าวว่า พวกเขาพร้อมที่จะปลดอาวุธ" และเสริมว่า "รัฐบาลอาหรับหลายประเทศกำลังเรียกร้องให้ฮามาสปลดอาวุธ เราใกล้จะหาทางออกเพื่อยุติสงครามนี้ได้แล้ว"
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์อีกฉบับ ฮามาสกล่าวหาว่า การที่วิตคอฟฟ์เดินทางเยือนศูนย์กระจายความช่วยเหลือในฉนวนกาซาเป็น "การแสดงที่ถูกจัดฉากขึ้นล่วงหน้าเพื่อบิดเบือนความคิดเห็นสาธารณะ ปกปิดภาพลักษณ์ของผู้ที่เข้ามายึดครองดินแดน และปิดบังซ่อนเร้นนโยบายที่ทำให้ประชาชนในกาซาอดอยาก รวมถึงสังหารเด็กและพลเรือนผู้บริสุทธิ์อย่างเป็นระบบ"
แถลงการณ์ดังกล่าวเน้นย้ำว่า รัฐบาลสหรัฐฯ "มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการก่ออาชญากรรมความอดอยากเหล่านี้"
ทั้งนี้ วิตคอฟฟ์เยือนฉนวนกาซาเมื่อวันศุกร์ (1 ส.ค.) โดยลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์กระจายความช่วยเหลือของกาซา ฮิวแมนิแทเรียน ฟาวน์เดชัน (Gaza Humanitarian Foundation GHF) ในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา