สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มิโรสลาฟ เยนกา ผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายกิจการยุโรป เอเชียกลาง และอเมริกา ได้กล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันอังคาร (5 ส.ค.) แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อรายงานข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล อาจตัดสินใจขยายปฏิบัติการทางทหารให้ครอบคลุมทั่วทั้งฉนวนกาซา
"หากเป็นความจริง การกระทำดังกล่าวจะนำไปสู่หายนะต่อชาวปาเลสไตน์หลายล้านคน และยังอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตตัวประกันชาวอิสราเอลที่เหลืออยู่ในกาซา" เยนกากล่าวเยนกาย้ำว่า "กฎหมายระหว่างประเทศระบุชัดเจนว่า กาซาเป็นและต้องเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต"
นอกจากนี้ เยนกายังอ้างถึงความเห็นเชิงแนะนำของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เมื่อเดือนก.ค. 2567 ที่ระบุว่า อิสราเอลมีพันธกรณีต้องยุติการตั้งถิ่นฐานใหม่ทั้งหมดในทันที อพยพผู้ตั้งถิ่นฐานออกจากดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง และยุติการยึดครองที่ผิดกฎหมายโดยเร็วที่สุด
"สถานการณ์ในกาซาน่าสะพรึงกลัวและเลวร้ายเกินจะรับไหว" เยนกากล่าว พร้อมชี้ว่าชาวปาเลสไตน์ต้องเผชิญกับสภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นและไร้มนุษยธรรมทุกวัน
เยนการะบุว่า นับตั้งแต่ความขัดแย้งปะทุขึ้นเมื่อเดือนต.ค. 2566 มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วกว่า 60,000 รายตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขกาซา และตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,200 รายและบาดเจ็บอีกกว่า 8,100 ราย ขณะพยายามเข้าถึงความช่วยเหลือด้านอาหาร ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดใกล้จุดแจกจ่ายความช่วยเหลือของกองทัพสหรัฐฯ ในกาซา
"ยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บยังคงเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยไม่เห็นจุดสิ้นสุดของความทุกข์ทรมาน"เยนการายงานต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า อิสราเอลยังคงจำกัดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเข้มงวด ทำให้ความช่วยเหลือที่ส่งเข้าไปได้นั้นไม่เพียงพออย่างยิ่ง และความหิวโหยเกิดขึ้นทุกหนแห่งในกาซา
"ผมขอกล่าวสนับสนุนแถลงการณ์ของเลขาธิการ (ของ UN) ที่ประณามความรุนแรงที่ดำเนินอยู่ในกาซา ทั้งการยิง การสังหาร และทำร้ายผู้คนที่พยายามหาอาหารให้ครอบครัว" เยนกากล่าว "พลเรือนต้องได้รับความเคารพและคุ้มครอง ต้องไม่ตกเป็นเป้าหมาย หรือถูกจงใจกีดกันจากอาหารและความช่วยเหลือที่จำเป็นต่อชีวิต การกระทำเช่นนั้นถือเป็นอาชญากรรมสงคราม"
เยนกาเรียกร้องให้อิสราเอลอนุญาตและอำนวยความสะดวกโดยทันที ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในปริมาณที่เพียงพอสามารถส่งผ่านไปยังพลเรือนได้อย่างรวดเร็วและไร้อุปสรรค เพื่อป้องกันความทุกข์ทรมานและการสูญเสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้นอีก
เยนกากล่าวว่า ความขัดแย้งในกาซาและปัญหาอิสราเอล-ปาเลสไตน์ในภาพรวมไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการทางทหาร "เราต้องสร้างกรอบการทำงานทางการเมืองและความมั่นคงขึ้นมา เพื่อบรรเทาหายนะด้านมนุษยธรรมในกาซา เริ่มการฟื้นฟูบูรณะ จัดการข้อกังวลด้านความมั่นคงของทั้งสองฝ่าย และนำไปสู่การยุติการยึดครองที่ผิดกฎหมายของอิสราเอล เพื่อให้บรรลุทางออกสองรัฐที่ยั่งยืน"