ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน พร้อมด้วยบรรดาผู้นำประเทศในยุโรป จะจัดการประชุมทางไกลกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันนี้ (13 ส.ค.) ก่อนที่การประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะเปิดฉากขึ้นในวันศุกร์นี้ (15 ส.ค.) ที่รัฐอะแลสกา
การประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2564 และเป็นความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะหาทางยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยปธน.ทรัมป์ ได้กล่าวถึงการพบกับปูตินครั้งนี้ว่าเป็นเพียง "การหยั่งเชิง" ส่วนทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ก็แจ้งว่าเป็นการไป "เพื่อรับฟัง" เท่านั้น
สำหรับการประชุมทางไกลในวันนี้ จะมีผู้นำจากเยอรมนี ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี โปแลนด์ สหภาพยุโรป และเลขาธิการใหญ่องค์การนาโตเข้าร่วมด้วย โดยโฆษกรัฐบาลเยอรมนีแถลงว่า กำหนดการจะเริ่มในเวลา 13:00 น. ตามเวลา GMT (20:00 น. ของวันนี้ ตามเวลาไทย)
นอกจากนี้ ยังมีกำหนดการประชุมออนไลน์อีกวาระหนึ่งระหว่างทรัมป์, รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ และผู้นำยุโรป ก่อนจะตามด้วยการประชุมของกลุ่มที่เรียกกันว่า "กลุ่มพันธมิตรที่เต็มใจ" (coalition of the willing) ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ร่วมกันวางแผนช่วยเหลือยูเครน ในเวลา 14:30 น. GMT (21:30 น. ของวันนี้ ตามเวลาไทย)
บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายยุโรปได้แสดงความวิตกกังวลว่า อาจมีการตกลงกันโดยที่ฝ่ายตนมิได้มีส่วนร่วม และย้ำว่า ข้อตกลงใดก็ตามที่เกี่ยวกับประเทศยูเครน จะต้องให้ยูเครนเข้าร่วมรับรู้ด้วย
สำหรับสถานการณ์การรบภาคพื้นดินนั้น มีรายงานว่ากองทหารรัสเซียได้โหมโจมตีหนักขึ้นในเมืองโปครอฟสก์และคอสเตียนตีนิฟกา ทางตะวันออกของยูเครน
ทางด้านปธน.เซเลนสกีได้แถลงเมื่อวันอังคาร (12 ส.ค.) ว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่รัฐบาลเคียฟจะยอมรับข้อตกลงให้ถอนทหารออกจากภูมิภาคดอนบาส เพราะจะทำให้แนวป้องกันของประเทศอ่อนกำลังลงอย่างยิ่ง พร้อมกล่าวเสริมว่า ปัญหาเรื่องดินแดนนั้น จะนำขึ้นมาเจรจาได้ก็ต่อเมื่อมีการหยุดยิงเป็นที่เรียบร้อย และยูเครนได้รับหลักประกันความปลอดภัยแล้วเท่านั้น