ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความใน Truth Social วันนี้ ระบุว่า เขาเตรียมเจรจากับผู้นำยุโรปในคืนนี้เกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน ก่อนที่เขาจะพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในวันศุกร์นี้
"ผมจะพูดคุยกับผู้นำยุโรปในอีกไม่ช้า พวกเขาเป็นผู้คนที่ยอดเยี่ยมซึ่งต้องการเห็นข้อตกลงเกิดขึ้น" ปธน.ทรัมป์ระบุทั้งนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน รวมทั้งผู้นำของยุโรปจากเยอรมนี ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี โปแลนด์ สหภาพยุโรป และเลขาธิการใหญ่ขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะจัดการประชุมทางไกลกับปธน.ทรัมป์ในวันนี้เวลา 20.00 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ มีกำหนดการประชุมออนไลน์อีกวาระหนึ่งระหว่างปธน.ทรัมป์, นายเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ และผู้นำยุโรป ก่อนการประชุมของ "กลุ่มพันธมิตรที่เต็มใจ" (coalition of the willing) ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ร่วมกันวางแผนช่วยเหลือยูเครน ในเวลา 21.30 น.
อย่างไรก็ดี ทำเนียบขาวและผู้เชี่ยวชาญต่างคาดการณ์ว่า การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในวันศุกร์ที่ 15 ส.ค.นี้ จะไม่ส่งผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อการยุติสงครามในยูเครน
นางแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ปธน.ทรัมป์จะเข้าพบปธน.ปูตินเพื่อรับฟังความเห็นของผู้นำรัสเซีย
"นี่เป็นเพียงการประชุมเพื่อรับฟังความเห็นสำหรับท่านประธานาธิบดี โดยจะมีเพียงฝายเดียวที่เข้าร่วมสงครามที่เข้าร่วมการประชุม ดังนั้นนี่คือโอกาสที่ท่านประธานาธิบดีจะทำความเข้าใจให้ชัดเจนและลึกซึ้งว่าพวกเราจะสามารถช่วยยุติสงครามนี้ได้อย่างไร" นางเลวิตต์กล่าววานนี้ถ้อยแถลงของนางเลวิตต์ถือเป็นการลดกระแสความคาดหวังที่ว่า การประชุมสุดยอดของผู้นำทั้งสองที่รัฐอะแลสกาจะสามารถช่วยยุติสงครามในยูเครน
นายเบนจามิน ก็อดวิน ผู้บริหารของบริษัท PRISM Strategic Intelligence กล่าวในรายการ Europe Early Edition ของสำนักข่าว CNBC ในวันนี้ว่า แนวคิดการแลกเปลี่ยนดินแดนได้ลดโอกาสประสบความสำเร็จของการประชุมสุดยอดในอะแลสกา
"ทั้งหมดนี้อยู่บนข้อเท็จจริงที่ว่า พื้นฐานของการประชุมนี้ตั้งอยู่บนสิ่งที่ทั้งชาวยูเครน ชาวยุโรป และแม้แต่ชาวอเมริกันเองก็ไม่สามารถยอมรับได้ ดังนั้น สิ่งที่เราเห็นจากถ้อยแถลงของคุณแคโรไลน์ เลวิตต์ คือการที่ทำเนียบขาวลดกระแสความคาดหวังลงเรื่อยๆ ในช่วงหลายวันก่อนการประชุม""นี่เป็นโอกาสดีสำหรับปูตินที่จะดูยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งบนเวทีโลก และก็เป็นโอกาสดีสำหรับทรัมป์ด้วย เพราะเขาชอบอยู่ในเหตุการณ์ใหญ่ ๆ แบบนี้ แต่สุดท้ายแล้วจะเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ ไหม? มันดูเป็นไปได้ยาก" นายก็อดวินกล่าวด้านนางคายา คัลลาส รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว CNBC ว่า "สิ่งที่ปธน.ปูตินทำคือ การแสร้งทำเป็นเจรจา โดยไม่มีผู้นำยูเครนอยู่บนโต๊ะเจรจา สิ่งนี้ทำให้เห็นชัดว่าเขาไม่ต้องการเจรจาจริง ๆ เขาเพียงต้องการถ่ายภาพร่วมกับประธานาธิบดีทรัมป์ รวมทั้งยืดเวลาการคว่ำบาตรออกไป"