ทำเนียบขาวแถลงในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มี "เครื่องมือมากมายที่พร้อมใช้" สำหรับการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในวันพรุ่งนี้
"แน่นอน ท่านประธานาธิบดีมีเครื่องมือมากมายที่สามารถใช้ได้หากจำเป็น" นางแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวต่อสำนักข่าว Fox News
นางเลวิตต์ย้ำว่า มาตรการคว่ำบาตรและมาตรการอื่น ๆ ยังคงเป็นตัวเลือกของผู้นำสหรัฐ แต่ปธน.ทรัมป์ให้ความสำคัญกับการเจรจา โดยการทูต "เป็นแนวทางของท่านประธานาธิบดีมาโดยตลอด" และเป็นแนวทางหลักในการยุติความขัดแย้ง
นางเลวิตต์กล่าวว่า ปธน.ทรัมป์จะออกจากทำเนียบขาวในเช้าวันศุกร์ ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังฐานทัพเอลเมนดอร์ฟ-ริชาร์ดสันในเมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา เพื่อเข้าร่วมการประชุมแบบตัวต่อตัวกับปธน.ปูติน และตามมาด้วยการรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันกับคณะผู้แทนของทั้งสองประเทศ รวมทั้งการจัดการแถลงข่าว
"สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังการประชุมจะขึ้นอยู่กับท่านประธานาธิบดี" นางเลวิตต์กล่าว พร้อมเสริมว่า ปธน.ทรัมป์ตั้งใจที่จะใช้ทุกทางเลือกเพื่อให้บรรลุข้อตกลงสันติภาพในการยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งได้ยืดเยื้อเข้าสู่ปีที่ 4
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์มีกำหนดแถลงข่าวจากห้องทำงานรูปไข่ที่ทำเนียบขาวในวันนี้ ก่อนที่เขาจะเดินทางไปยังเมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา เพื่อประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในวันพรุ่งนี้
การแถลงข่าวของปธน.ทรัมป์จะมีขึ้นในวันนี้ เวลา 13.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเวลาเที่ยงคืนตามเวลาไทย
ปธน.ทรัมป์กล่าวเตือนวานนี้ว่า รัสเซียจะเผชิญกับผลลัพธ์ที่รุนแรงอย่างมาก หากปธน.ปูตินปฏิเสธข้อตกลงหยุดยิงภายในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาหวังจะใช้การประชุมสุดยอดกับปธน.ปูตินในวันศุกร์นี้เพื่อวางแผนการประชุมรอบที่สองอย่างรวดเร็ว ซึ่งประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน อาจเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
"มีโอกาสสูงมากที่เราจะมีการประชุมรอบที่สอง ซึ่งจะเกิดผลลัพธ์มากกว่าครั้งแรก" ปธน.ทรัมป์กล่าวต่อผู้สื่อข่าว
ถ้อยแถลงของปธน.ทรัมป์สะท้อนถึงความพยายามในการลดกระแสความคาดหวังต่อการบรรลุข้อตกลงสันติภาพจากการประชุมสุดยอดกับปธน.ปูตินในวันพรุ่งนี้ และการตอบสนองต่อความกังวลจากชาติพันธมิตรในยุโรปที่ต้องการให้เขาให้ความสำคัญกับการเจรจาโดยตรงระหว่างปธน.ปูตินและปธน.เซเลนสกี