ผู้บัญชาการหน่วยโดรนของกองทัพยูเครนได้ออกมาเปิดเผยเมื่อค่ำวันพฤหัสบดี (21 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า กองทัพยูเครนประสบความสำเร็จในปฏิบัติการโจมตีสถานีสูบจ่ายน้ำมันอูเนชา (Unecha) ซ้ำเป็นครั้งที่สอง ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของท่อส่งน้ำมันดรูซบา (Druzhba) ที่รัสเซียใช้ลำเลียงน้ำมันสู่ยุโรป ขณะที่ทางการฮังการีออกมายืนยันว่า การลำเลียงน้ำมันได้หยุดชะงักลงแล้ว
สถานการณ์ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างฝ่ายต่างยกระดับการโจมตีถล่มโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของกันและกันอย่างหนักหน่วง โดยฝ่ายยูเครนมุ่งเป้าทำลายโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งของรัสเซีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงทางการเงินที่รัสเซียใช้ในการทำสงคราม บ่อนทำลายการส่งออกพลังงาน และสร้างสภาวะขาดแคลนเชื้อเพลิงภายในประเทศ
ขณะที่ฝ่ายรัสเซียก็ได้ทำการตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธและโดรนเข้าโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านก๊าซของยูเครนอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำลายขีดความสามารถในการนำเข้าก๊าซ และบั่นทอนระบบสาธารณูปโภคที่ใช้ให้ความอบอุ่นแก่พลเรือนและเป็นเชื้อเพลิงแก่กองทัพ
ทั้งนี้ ท่อส่งน้ำมันดรูซบามีความสำคัญอย่างยิ่งในการลำเลียงน้ำมันจากรัสเซียไปยังฮังการีและสโลวาเกีย ตลอดจนจากคาซัคสถานไปยังเยอรมนี โดยตลอดเดือนที่ผ่านมา ยูเครนได้เปิดฉากโจมตีสถานีของท่อส่งน้ำมันแห่งนี้หลายครั้ง จนเป็นเหตุให้การจัดส่งต้องหยุดชะงักเป็นเวลาหลายวัน
ขณะเดียวกัน ปีเตอร์ ซิยาร์โท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฮังการี ได้แถลงว่าการจัดส่งน้ำมันดิบจากรัสเซียสู่ฮังการีผ่านท่อส่งดรูซบาต้องยุติลง ภายหลังเกิดเหตุโจมตีท่อส่งน้ำมันบริเวณใกล้พรมแดนรัสเซีย-เบลารุส
"เหตุการณ์นี้ถือเป็นการโจมตีความมั่นคงทางพลังงานของเราอีกครั้งหนึ่ง" ซิยาร์โทระบุผ่านข้อความบนเฟซบุ๊ก
ทางด้านโรเบิร์ต บรอฟดี ผู้บัญชาการหน่วยโดรนของยูเครน ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านช่องทางเทเลแกรม ซึ่งปรากฏภาพเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ณ สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งมีถังเก็บเชื้อเพลิงตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก
อเล็กซานเดอร์ โบโกมาซ ผู้ว่าการแคว้นบรีอันสค์ของรัสเซีย ซึ่งมีอาณาเขตติดกับยูเครนและเบลารุสทางภาคตะวันตกสุดของประเทศ ได้เปิดเผยวันนี้ (22 ส.ค.) ว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่สถานประกอบการด้านพลังงานในเมืองอูเนชา อันเป็นผลพวงมาจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนของยูเครน แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว
"จากการสกัดกั้นปฏิบัติการโจมตีแบบผสมผสานด้วยจรวด HIMARS MLRS และอากาศยานไร้คนขับ ได้ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่โครงสร้างพื้นฐานด้านเชื้อเพลิงในเขตอูเนชา" โบโกมาซแถลงผ่านเทเลแกรม
เป็นที่น่าสังเกตว่า สโลวาเกียและฮังการียังคงเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพิงพลังงานจากรัสเซียเป็นหลัก (ซึ่งแตกต่างจากชาติสมาชิกสหภาพยุโรปส่วนใหญ่) โดยรับน้ำมันดิบผ่านท่อส่งดรูซบาที่ทอดผ่านเบลารุสและยูเครน
ปฏิบัติการโจมตีโรงกลั่นและท่อส่งน้ำมันของยูเครนที่เกิดขึ้นแทบรายวันได้ก่อให้เกิดภาวะขาดแคลนเชื้อเพลิงอย่างหนักในหลายแคว้นของรัสเซีย
สถานการณ์ดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าจะมีความพยายามทางการทูตจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในการผลักดันการเจรจาเพื่อนำไปสู่การยุติความขัดแย้งก็ตาม