กลุ่มนักศึกษาและเครือข่ายภาคประชาสังคมในอินโดนีเซีย ประกาศยุติการชุมนุมประท้วงชั่วคราวในวันนี้ (1 ก.ย.) โดยให้เหตุผลด้านความปลอดภัย หลังจากทางการส่งสัญญาณจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อควบคุมสถานการณ์จลาจลรุนแรงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายราย
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสถานการณ์ประท้วงต่อต้านค่าตอบแทนของสมาชิกรัฐสภาและการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจที่บานปลายเป็นวงกว้างทั่วประเทศตลอดสัปดาห์ที่แล้ว โดยจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (28 ส.ค.) หลังจากรถตำรวจพุ่งชนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างเสียชีวิต ทำให้การชุมนุมทวีความรุนแรงและมีผู้เข้าร่วมมากขึ้น
เมื่อวันอาทิตย์ (31 ส.ค.) ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ได้ประกาศว่า พรรคฝ่ายรัฐบาลมีมติให้ลดสวัสดิการของสมาชิกรัฐสภาลง เพื่อหวังลดแรงกดดันจากผู้ชุมนุม พร้อมกันนั้นได้ออกคำสั่งให้กองทัพและตำรวจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับผู้ก่อความไม่สงบและกลุ่มคนที่ออกปล้นสะดมทรัพย์สิน ภายหลังบ้านพักของนักการเมืองและอาคารราชการหลายแห่งถูกบุกทำลายและวางเพลิง
ด้านกลุ่มพันธมิตรสตรีอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำหลัก โพสต์ผ่านทางอินสตาแกรมเมื่อวานนี้ว่า จะเลื่อนกำหนดการชุมนุมที่หน้ารัฐสภาออกไปก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าและการปราบปรามจากเจ้าหน้าที่ โดยจะรอจนกว่าสถานการณ์จะสงบลง
เช่นเดียวกับกลุ่มนักศึกษาต่าง ๆ ที่ประกาศเลื่อนการชุมนุมในวันนี้ออกไปเช่นกัน โดยองค์กรเครือข่ายนักศึกษากลุ่มหนึ่งให้เหตุผลว่า "สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยอย่างยิ่ง" ต่อการจัดกิจกรรม
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีกลุ่มเคลื่อนไหวอื่น ๆ จัดการชุมนุมในกรุงจาการ์ตาหรือเมืองสำคัญอื่น ๆ หรือไม่ ท่ามกลางโพสต์ต่าง ๆ ในโซเชียลมีเดียเตือนให้ระวังใบปลิวปลอมเชิญชวนชุมนุม