ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประกาศว่าจะตอบโต้รัสเซียด้วยการสั่งโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียมากขึ้น หลังจากที่รัสเซียใช้โดรนโจมตีโรงไฟฟ้าทางตอนเหนือและตอนใต้ของยูเครนในช่วงค่ำวันอาทิตย์ (31 ส.ค.) ส่งผลให้ประชาชนราว 60,000 ครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้
"เราจะเดินหน้าใช้ปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อป้องกันประเทศต่อไป กองกำลังและทรัพยากรต่าง ๆ ถูกเตรียมพร้อมไว้แล้ว และเรามีการวางแผนการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนใหม่ด้วย" เซเลนสกีกล่าวบนแพลตฟอร์ม X หลังจากการประชุมกับโอเล็กซานเดอร์ ซีร์สกี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครน
ดีเทค (DTEK) บริษัทพลังงานเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของยูเครนเปิดเผยว่า โดรนของรัสเซียได้โจมตีโรงไฟฟ้า 4 แห่งในภูมิภาคโอเดสซาในช่วงกลางดึกของวันอาทิตย์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานว่ามีประชาชน 29,000 คนไม่มีไฟฟ้าใช้
โอเลห์ คีเปอร์ ผู้ว่าการภูมิภาคโอเดสซากล่าวว่า เมืองที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือเมืองท่าชอร์โนมอร์สค์ ซึ่งอยู่นอกเมืองโอเดสซาเล็กน้อย โดยที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานได้รับความเสียหายด้วย
เจ้าหน้าที่ยูเครนยังเปิดเผยว่า โดรนของรัสเซียยังโจมตีภูมิภาคเชอร์นีฮิฟ ทางตอนเหนือของยูเครนในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเสียหาย และส่งผลให้ประชาชน 30,000 ครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ รวมถึงบางส่วนของเมืองนีจิน
กองทัพยูเครนระบุว่า รัสเซียได้โจมตียูเครนด้วยโดรน 142 ลำในช่วงค่ำวันอาทิตย์ และกองกำลังป้องกันทางอากาศสามารถยิงสกัดได้ส่วนใหญ่ แต่โดรนก็ยังคงสามารถโจมตีได้ถึง 10 จุด
ทั้งนี้ ในขณะที่สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียเข้าสู่ปีที่สี่ ทั้งสองฝ่ายได้เพิ่มการโจมตีทางอากาศในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรัสเซียพุ่งเป้าไปที่ระบบพลังงานและการคมนาคมของยูเครน ในขณะที่ยูเครนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันและท่อส่งน้ำมันของรัสเซีย