อินโดนีเซียเผชิญกับการประท้วงครั้งใหญ่ในกรุงจาการ์ตาและตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศ อันมีสาเหตุมาจากการที่ประชาชนไม่พอใจที่นักการเมืองได้รับเบี้ยเลี้ยงมากเกินความจำเป็น ทั้งที่ประชาชนกำลังประสบปัญหาค่าครองชีพพุ่งสูงและใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ก่อนที่เหตุการณ์จะลุกลามบานปลายกลายเป็นการจลาจลครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
ลำดับเหตุการณ์
25 สิงหาคม - กลุ่มนักศึกษา แรงงาน และไรเดอร์หลายพันคนรวมตัวประท้วงในกรุงจาการ์ตา และขยายไปยังเมืองอื่น ๆ เช่น เมดาน เมืองเอกของจังหวัดสุมาตราเหนือ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่มีการให้เงินช่วยเหลือค่าที่พักแก่สมาชิกรัฐสภาสูงถึง 50 ล้านรูเปียห์ต่อเดือน (ราว 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำในจาการ์ตาถึง 10 เท่า ในขณะที่ประชาชนประสบปัญหาค่าครองชีพพุ่งสูง ถูกเลิกจ้าง และถูกขึ้นภาษีอสังหาริมทรัพย์ การชุมนุมทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อตำรวจได้ปิดกั้นทางเข้ารัฐสภาจังหวัดสุมาตราเหนือ ผู้ชุมนุมแสดงความไม่พอใจด้วยการเผายางรถยนต์และตั้งสิ่งกีดขวาง ส่งผลให้ตำรวจปราบจลาจลต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ จนมีผู้บาดเจ็บหลายสิบราย
27 สิงหาคม - นักศึกษามหาวิทยาลัยตันยุงปุระ (Tanjungpura University) บุกอาคารรัฐสภาจังหวัดกาลิมันตันตะวันตก มีผู้ถูกจับกุม 15 รายในข้อหาขัดขืนและทำลายทรัพย์สิน แต่ได้รับการปล่อยตัวในอีกสองวันต่อมาหลังจากให้คำมั่นว่าจะไม่ทำกระทำผิดซ้ำอีก
28 สิงหาคม - นักศึกษา นักเคลื่อนไหว และสหภาพแรงงานหลายกลุ่มรวมหลายพันคนชุมนุมนอกอาคารรัฐสภากรุงจาการ์ตา เรียกร้องให้มีการขึ้นค่าแรงและปฏิรูปภาษี การชุมนุมเริ่มต้นด้วยความสงบ แต่หลังจากนั้นนักศึกษาได้พยายามปีนรั้วรัฐสภา ตำรวจจึงยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม จนเกิดการปะทะกันลุกลามไปยังย่านการค้า ทางด่วน และสถานีรถไฟในบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ การประท้วงยังลุกลามไปอีกหลายเมือง เช่น เมดาน สุราบายา และบันดาร์อาเจะห์ เป็นต้น
29 สิงหาคม - การชุมนุมกลายเป็นเหตุจลาจลรุนแรง หลังจากที่ไรเดอร์คนหนึ่งถูกรถตำรวจพุ่งชนจนเสียชีวิต และยังมีผู้เสียชีวิตอีกสามรายจากเหตุวางเพลิงอาคารรัฐสภาท้องถิ่น นอกจากนี้ บ้านของนักการเมืองและอาคารของรัฐยังถูกเผาทำลาย มีการปล้นสะดมร้านค้าต่าง ๆ และมีการบุกบ้านของศรี มุลยานี อินทราวาตี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งอยู่นอกกรุงจาการ์ตา แต่เธอไม่ได้อยู่ในบ้านระหว่างเกิดเหตุ
30 สิงหาคม - เกิดการปะทะกันนอกสำนักงานใหญ่ของกองกำลังตำรวจปราบจลาจลในกรุงจาการ์ตา มีการตัดไฟฟ้าในพื้นที่ พร้อมทั้งใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และกระสุนจริง นอกจากนี้ ผู้ก่อจลาจลได้เผาทำลายสถานีขนส่งและสถานีรถไฟใต้ดิน ขณะที่บ้านของนักการเมืองตกเป็นเป้าโจมตีและปล้นสะดม ตกกลางคืนมีการจับกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมาก ขณะที่โลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอตำรวจทำร้ายร่างกายผู้ประท้วงรวมถึงนักข่าว ด้านประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ได้ยกเลิกกำหนดการเดินทางเยือนประเทศจีน จากเดิมที่มีกำหนดเข้าร่วมพิธีสวนสนาม "วันแห่งชัยชนะ" (Victory Day) ในวันที่ 3 ก.ย. เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี การสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากการยอมจำนนอย่างเป็นทางการของญี่ปุ่น
31 สิงหาคม - ประธานาธิบดีซูเบียนโตประกาศว่า พรรคการเมืองต่าง ๆ ตกลงที่จะลดสวัสดิการของสมาชิกรัฐสภาเพื่อบรรเทาความไม่พอใจของประชาชน พร้อมกับสั่งการให้กองกำลังความมั่นคงดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อผู้ก่อจลาจล โดยเตือนว่าการก่อความไม่สงบบางส่วนมี "สัญญาณของการก่อการร้ายและการก่อกบฏ"
1 กันยายน - กลุ่มนักศึกษาและเครือข่ายภาคประชาสังคมในอินโดนีเซียประกาศยุติการชุมนุมประท้วงชั่วคราว โดยให้เหตุผลด้านความปลอดภัย หลังจากทางการส่งสัญญาณจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อควบคุมสถานการณ์จลาจลรุนแรง