ทรัมป์ร้องบ.ต่างชาติจ้างและฝึกแรงงานอเมริกัน หลังบุกจับแรงงานในโรงงานฮุนได

ข่าวต่างประเทศ Monday September 8, 2025 11:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้บริษัทต่างชาติที่ลงทุนในสหรัฐฯ จ้างและฝึกแรงงานชาวอเมริกัน พร้อมเคารพกฎหมายด้านคนเข้าเมือง หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บุกจับแรงงานในโรงงานฮุนได มอเตอร์ (Hyundai Motor) ในรัฐจอร์เจีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทรัมป์โพสต์ข้อความบน Truth Social ว่า "หลังจากปฏิบัติการตรวจค้นแรงงานต่างชาติที่โรงงานแบตเตอรีฮุนไดในจอร์เจีย ผมขอเรียกร้องให้บริษัทต่างชาติทุกแห่งที่ลงทุนในสหรัฐฯ เคารพกฎหมายด้านคนเข้าเมืองของเรา" พร้อมเสริมว่า "เรายินดีต้อนรับการลงทุนและเราสนับสนุนให้คุณนำคนเก่งที่มีความสามารถมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกอย่างถูกกฎหมาย เราขอเพียงให้คุณจ้างและฝึกแรงงานอเมริกัน"

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวว่า จะตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ยืนยันว่าไม่ได้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ นอกจากนี้ เขายังเสนอแนวคิดว่าอาจอนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตจากต่างชาติเข้ามาช่วยฝึกแรงงานอเมริกัน

รายงานระบุว่า รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังประสานเพื่อนำแรงงานเกาหลีราว 300 คนกลับประเทศ หลังจากที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ควบคุมตัวคนงานราว 475 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ เมื่อวันพฤหัสบดี (4 ก.ย.) โดยถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (DHS)

นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ยังแสดงความเสียใจต่อการจับกุมแรงงาน และการเผยแพร่ภาพและวิดีโอการจับกุมแรงงานเกาหลีหลายร้อยคนที่โรงงาน ที่แสดงภาพแรงงานที่ถูกใส่โซ่ตรวนที่ข้อมือ เอว และข้อเท้า ขณะถูกนำตัวออกไป

กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีระบุในแถลงการณ์เมื่อช่วงดึกของวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 ก.ย.) ว่า พาร์ค ยุน-จู รองรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับอัลลิสัน ฮุกเกอร์ รองรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายการเมือง โดยกล่าวว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สองประเทศพยายามผลักดันความไว้วางใจและความร่วมมือระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่าย

นอกจากนี้ พาร์ค ยุน-จู ยังได้ขอให้ฮุกเกอร์รับรองว่าจะมีการแก้ไขปัญหานี้อย่างยุติธรรมและรวดเร็ว พร้อมย้ำว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของบริษัทของเราที่ลงทุนในสหรัฐฯ และสิทธิผลประโยชน์ของพลเมืองของเรา ไม่ควรถูกละเมิดอย่างไม่เป็นธรรมในระหว่างการบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ