การประกาศลาออกจากตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ได้ทำให้การแข่งขันชิงเก้าอี้ผู้นำคนใหม่ของญี่ปุ่นเปิดกว้างขึ้นมากขึ้น โดยมีการคาดการณ์ชื่อบุคคลหลายคนที่จะมาสืบทอดตำแหน่งต่อจากอิชิบะ แต่มีสองชื่อที่โดดเด่นคือ ซานาเอะ ทาคาอิจิ อดีตรัฐมนตรีหญิงที่เคยคุมกระทรวงความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และชินจิโระ โคอิซูมิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรคนปัจจุบัน
แม้ทาคาอิจิและโคอิซูมิยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะลงสมัคร แต่ยูเรเซีย กรู๊ป (Eurasia Group) บริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมืองคาดการณ์ว่า บุคคลทั้งสองจะเข้าร่วมการแข่งขันในศึกครั้งนี้เพื่อนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแทนอิชิบะ
ทางด้านสำนักข่าวนิกเกอิได้เปิดเผยผลสำรวจเมื่อเดือนที่แล้วซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทาคาอิจิมีคะแนนนิยม 23% แซงหน้าโคอิซูมิซึ่งมีคะแนน 22% โดยหากทาคาอิจิได้รับเลือก เธอจะกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
ไม่เพียงแค่ผลสำรวจเท่านั้น แม้แต่โทโมฮิโกะ ทานิงูจิ อดีตที่ปรึกษาพิเศษของคณะรัฐมนตรีในสมัยของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้ชินโซ อาเบะ ผู้ล่วงลับ ยังแสดงความเห็นว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในญี่ปุ่นมีความพร้อมสำหรับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นหญิง โดยเขาเปิดเผยในรายการ "Squawk Box Asia" ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า ถึงเวลาแล้วที่ญี่ปุ่นจะมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ซึ่งสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับกล่าวว่า จำนวนผู้หญิงชาวญี่ปุ่นที่มีส่วนร่วมในตลาดแรงงานมีมากกว่าในสหรัฐอเมริกา
การแสดงความเห็นของทานิงูจิสอดคล้องกับข้อมูลล่าสุดขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งระบุว่า ประมาณ 85% ของผู้หญิงชาวญี่ปุ่นที่มีอายุระหว่าง 25 - 54 ปี ยังคงทำงาน เทียบกับระดับ 78% ในสหรัฐฯ
ทาคาอิจิเคยลงแข่งขันกับอิชิบะในการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) เมื่อปีที่แล้ว และมีคะแนนนำในรอบแรก ก่อนที่จะพ่ายแพ้แก่อิชิบะในรอบตัดสิน หลังจากนั้น เธอก็ได้ปลีกตัวออกห่างจากรัฐบาลของอิชิบะ โดยไม่รับตำแหน่งใด ๆ ในคณะรัฐมนตรี และปฏิเสธข้อเสนอให้เป็นประธานสภาทั่วไปของพรรค LDP