กรุงกาฐมาณฑุตกอยู่ภายใต้ประกาศเคอร์ฟิวในวันนี้ (10 ก.ย.) กองกำลังทหารเข้าควบคุมอาคารรัฐสภาและตรึงกำลังตามท้องถนนที่ไร้ผู้คน ท่ามกลางเหตุประท้วงต่อต้านการทุจริตที่ดำเนินมาสองวันอย่างนองเลือด ซึ่งเป็นผลให้นายกรัฐมนตรี เค พี ศรรมะ โอลี ต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งในที่สุด
ชนวนเหตุของสถานการณ์จลาจลในเนปาลสืบเนื่องมาจากคำสั่งห้ามใช้โซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ก่อน ทว่าคำสั่งดังกล่าวต้องถูกยกเลิกไป หลังการปะทะกับฝูงชนเมื่อวันจันทร์ (8 ก.ย.) ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้ทั้งแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 19 ราย
ในบริเวณโดยรอบอาคารรัฐสภา ปรากฏซากยานยนต์ที่ถูกเผาเป็นตอตะโกและเศษโลหะที่บิดเบี้ยวเกลื่อนกลาด ขณะที่หน่วยดับเพลิงของกองทัพกำลังระดมกำลังเข้าสกัดเพลิงที่ลุกไหม้ห้องโถงหลัก ส่วนภายนอกอาคารก็มีสภาพไหม้เกรียมจากการลอบวางเพลิงของผู้ประท้วงเมื่อวันอังคาร (9 ก.ย.)
"ผมได้รับรายงานจากผู้บัญชาการหน่วยรักษาความปลอดภัยรัฐสภาว่า โครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดถูกเพลิงเผาทำลาย ไม่เหลืออะไรเลย" เอคราม คีรี โฆษกสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์จากบ้านพักในกรุงกาฐมาณฑุ
อาคารที่ทำการของรัฐบาลอีกหลายแห่งล้วนตกเป็นเป้าหมาย ตั้งแต่ศาลฎีกาไปจนถึงบ้านพักของคณะรัฐมนตรี รวมถึงบ้านพักส่วนตัวของโอลี โดยสถานการณ์ความไม่สงบเริ่มคลี่คลายลงภายหลังการประกาศลาออกของผู้นำรัฐบาล
โฆษกท่าอากาศยานกรุงกาฐมาณฑุแถลงว่า การสัญจรทางอากาศได้รับผลกระทบ โดยสนามบินหลักต้องปิดให้บริการชั่วคราวจนถึงเวลา 18:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (19:15 น. ตามเวลาไทย)
ขณะเดียวกัน ยานเกราะของกองทัพได้เข้าประจำการตามถนนสายต่าง ๆ ซึ่งร้างผู้คน ร้านรวงและตลาดปิดทำการโดยสิ้นเชิง ราชา ราม บาสเน็ต โฆษกกองทัพ ให้ข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงปฏิบัติภารกิจในหลายจุด ควบคู่ไปกับการเคลียร์เส้นทางสัญจร
"ภารกิจเร่งด่วนที่สุดในขณะนี้คือการนำพาสถานการณ์กลับสู่ความสงบเรียบร้อย เรามีพันธกิจในการพิทักษ์รักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน" โฆษกกองทัพกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า กลุ่มนักโทษได้ก่อเหตุวางเพลิงเรือนจำดิลลีบาซาร์ในกรุงกาฐมาณฑุ ก่อนที่กองทัพจะเข้าระงับเหตุและควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
กองทัพได้แถลงผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า คำสั่งควบคุมสถานการณ์จะยังคงมีผลบังคับใช้ไปจนถึงรุ่งเช้าของวันพฤหัสบดี (11 ก.ย.) และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังประสานงานเพื่อหาทางออกให้กับปัญหาและจัดการกับผลพวงจากเหตุจลาจล
นอกจากนี้ สื่อหลายสำนักยังรายงานตรงกันว่า กำลังมีการเตรียมการเพื่อเปิดโต๊ะเจรจาระหว่างตัวแทนฝ่ายรัฐบาลกับกลุ่มผู้ประท้วง
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมการประท้วงส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งแสดงออกถึงความสิ้นหวังต่อความล้มเหลวของรัฐบาลในการปราบปรามการทุจริตและการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ
ปัญหาการว่างงานที่เรื้อรังมานานหลายปีได้ผลักดันให้ชาวเนปาลนับล้านชีวิตต้องเดินทางไปเป็นแรงงานในต่างแดน ทั้งมาเลเซีย ตะวันออกกลาง และเกาหลีใต้ โดยมากทำงานในภาคการก่อสร้าง เพื่อส่งเงินกลับมาจุนเจือครอบครัว
ด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ซึ่งขนาบข้างด้วยสองมหาอำนาจอย่างอินเดียกับจีน เนปาลต้องเผชิญกับภาวะไร้เสถียรภาพทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การล้มล้างระบอบกษัตริย์เมื่อปี 2551