📌*สื่อตีข่าว "ทรัมป์-สี จิ้นผิง" เจรจาชื่นมื่น เป็นไปอย่างสร้างสรรค์

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ในวันนี้ เป็นไปอย่างมีเหตุผล ในเชิงบวก และเป็นไปอย่างสร้างสรรค์

ทั้งนี้ ปธน.สีกล่าวว่า สหรัฐควรหลีกเลี่ยงการดำเนินมาตรการจำกัดทางการค้าแต่เพียงฝ่ายเดียว

นอกจากนี้ ปธน.สีกล่าวว่า รัฐบาลจีนเคารพเจตจำนงของบริษัทต่าง ๆ และยินดีที่ได้เห็นพวกเขาดำเนินการเจรจาทางธุรกิจสอดคล้องกับกฎระเบียบในตลาด และบรรลุแนวทางแก้ไขที่สอดคล้องกับกฎหมายและกฎระเบียบของจีน พร้อมทั้งรักษาสมดุลแห่งผลประโยชน์

ขณะเดียวกัน ปธน.สีกล่าวต่อปธน.ทรัมป์ว่า ชาวจีนจะไม่มีวันลืมการสนับสนุนอันมีค่าของสหรัฐและพันธมิตรในการต่อต้านกลุ่มฟาสซิสต์ในช่วงที่จีนทำสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น

ถ้อยแถลงของปธน.สีดังกล่าว เป็นการตอบปธน.ทรัมป์ ซึ่งได้โพสต์ข้อความบน Truth Social เมื่อวันที่ 3 ก.ย. โดยปธน.ทรัมป์ตั้งคำถามถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ว่าจีนยังจำได้หรือไม่ถึงการที่สหรัฐได้ส่งกำลังทหารช่วยเหลือจีนในการต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

"คำถามใหญ่ที่ต้องการคำตอบก็คือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะกล่าวถึงหรือไม่ถึงความช่วยเหลืออันมหาศาล และ "เลือด" ที่สหรัฐอเมริกาได้มอบให้แก่จีน เพื่อช่วยให้จีนสามารถรักษาเสรีภาพจากชาติหนึ่งที่ได้รุกรานอย่างไม่เป็นมิตร"

ด้านสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ตกลงที่จะจัดการเจรจาทวิภาคีนอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปก (APEC) ที่เกาหลีใต้ในเดือนหน้า

ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องต่อการประชุมสุดยอดดังกล่าวในการสนทนาทางโทรศัพท์ในวันนี้

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว CNN รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกำลังเตรียมการสำหรับการเดินทางเยือนเกาหลีใต้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ในเดือนตุลาคม เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเปก ซึ่งปธน.ทรัมป์อาจมีการเจรจาทวิภาคีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน นอกรอบการประชุมดังกล่าว

หากการประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นจริง คาดว่าผู้นำทั้งสองจะเจรจาเพื่อยุติการทำสงครามการค้าระหว่างกัน หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้กำหนดอัตราภาษีศุลกากร 145% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนในเดือนเมษายน ส่งผลให้จีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากร 125% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐ แต่ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อชะลอการบังคับใช้มาตรการภาษีดังกล่าวไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายยังคงทำการเจรจาต่อไป

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ปธน.ทรัมป์อาจเดินทางไปยังเกาหลีใต้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม เพื่อเข้าร่วมการประชุมเอเปกที่เมืองคยองจูในวันที่ 31 ตุลาคม-1 พฤศจิกายน และปธน.ทรัมป์อาจเดินทางเยือนประเทศอื่นในเอเชียก่อนหรือหลังการประชุมเอเปก