บริษัทดิสนีย์ (Disney) ประกาศเมื่อวันจันทร์ (22 ก.ย.) ว่าจะให้ จิมมี คิมเมล พิธีกรชื่อดัง กลับมาจัดรายการทอล์กโชว์ช่วงดึก "Jimmy Kimmel Live" ได้อีกครั้งในวันอังคารนี้ (23 ก.ย.) หลังจากสั่งพักงานคิมเมลเป็นเวลา 6 วัน กรณีแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการลอบสังหาร ชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวฝ่ายอนุรักษนิยม
ท่าทีล่าสุดของดิสนีย์ครั้งนี้ถือเป็นการท้าทายนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่กำลังไล่บี้สื่อที่วิพากษ์วิจารณ์ตนเองอย่างหนัก ทั้งผ่านการข่มขู่ด้วยกฎหมายและใช้หน่วยงานรัฐเข้าควบคุม
ชนวนเหตุของเรื่องนี้เกิดจากคิมเมล ซึ่งมักวิจารณ์ทรัมป์อยู่เสมอ ได้กล่าวในรายการเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (15 ก.ย.) ว่า กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์พยายามป้ายสีผู้ต้องหาคดีลอบสังหารเคิร์กว่า "ไม่ใช่พวกเดียวกับตน" และพยายาม "หาคะแนนทางการเมือง" จากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงจากฝ่ายอนุรักษนิยม
ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นเพียง 5 วันหลังการเสียชีวิตของเคิร์ก พันธมิตรคนสำคัญของทรัมป์ ซึ่งถูกยิงขณะกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยยูทาห์ แวลลีย์ ส่งผลให้ประธานคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (FCC) ขู่ว่าจะเข้าตรวจสอบ สั่งปรับ หรืออาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตสถานี ประกอบกับสถานีโทรทัศน์ในเครือเอบีซี (ABC) หลายแห่งประกาศคว่ำบาตร ทำให้เมื่อวันพุธที่แล้ว (17 ก.ย.) ดิสนีย์จึงประกาศระงับการผลิตรายการของคิมเมลอย่างไม่มีกำหนด
อย่างไรก็ตาม ดิสนีย์ได้เปลี่ยนท่าทีและประกาศให้คิมเมลกลับมาทำงาน โดยให้เหตุผลว่าการระงับรายการในตอนแรกนั้น "เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์ที่ตึงเครียดอยู่แล้วบานปลาย" บริษัทยอมรับว่าความเห็นของคิมเมล "ไม่ถูกกาลเทศะและขาดความละเอียดอ่อน" แต่ก็ไม่ได้กล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการ
แหล่งข่าว 2 รายเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า บ็อบ ไอเกอร์ ซีอีโอ และ ดานา วอลเดน ประธานร่วมของดิสนีย์ ได้พูดคุยกับคิมเมลในช่วงสุดสัปดาห์ ก่อนจะตัดสินใจให้เขากลับมาในวันจันทร์ โดยยืนยันว่าการตัดสินใจนี้คำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทเป็นหลัก ไม่ใช่แรงกดดันจากเจ้าของสถานีหรือ FCC
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวอีกรายระบุว่า ดิสนีย์เผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากกลุ่มผู้สนับสนุนคิมเมลที่รณรงค์ให้คนยกเลิกบริการสตรีมมิง Disney+ เพื่อประท้วง ซึ่งข้อมูลจาก Google Trends ชี้ว่า ยอดการค้นหา "วิธียกเลิก Disney+" พุ่งสูงสุดในรอบ 12 เดือน
คาดว่าคิมเมลจะพูดถึงประเด็นร้อนนี้ในรายการวันอังคาร แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า เขาจะกล่าวขอโทษ หรือถูกจำกัดเนื้อหาในการแสดงความคิดเห็นหรือไม่
ด้านสถานีโทรทัศน์ในเครือรายใหญ่อย่างเน็กซ์สตาร์ มีเดีย กรุ๊ป (NextStar Media Group) และซินแคลร์ (Sinclair) ยังคงมีท่าทีไม่แน่นอน โดยซินแคลร์ประกาศว่าจะยังคงนำรายการข่าวมาออกอากาศแทนช่วงเวลาของคิมเมลต่อไปก่อน เพื่อประเมินสถานการณ์
ซูซาน แคมป์เบลล์ ศาสตราจารย์ด้านสื่อสารมวลชนศึกษา มหาวิทยาลัยนิวเฮเวน ให้ความเห็นว่า ดิสนีย์น่าจะตัดสินใจจากเหตุผลทางธุรกิจมากกว่าการปกป้องเสรีภาพในการแสดงออก "เมื่อผู้บริโภคใช้สิทธิ์ของตนเองด้วยการยกเลิกบริการสตรีมมิง บริษัทก็ต้องรับฟัง" เธอกล่าว
ขณะที่ แอนดรูว์ โคลเวต โฆษกของ Turning Point USA ซึ่งเป็นองค์กรเยาวชนฝ่ายอนุรักษนิยมของเคิร์ก โพสต์ข้อความผ่านเอ็กซ์ กล่าวหาดิสนีย์และ ABC ว่า "ยอมจำนนต่อกระแสสังคม"
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกมาแสดงความยินดีกับการพักงานของคิมเมล และเข้าใจผิดว่าเป็นการยุติรายการถาวร ส่วนมือปืนผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นนักศึกษาวัย 22 ปี ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมแล้ว แต่ยังไม่ทราบแรงจูงใจที่แน่ชัด