ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า เขาเชื่อว่า ด้วยการสนับสนุนจากยุโรปและนาโต ยูเครนอยู่ในจุดที่สามารถต่อสู้และกอบกู้ยูเครนกลับคืนมาดังเดิมได้
ถ้อยแถลงดังกล่าวส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงของจุดยืนของทำเนียบขาวในความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน เนื่องจากทรัมป์ได้กดดันประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน มานานหลายเดือนให้ยอมประนีประนอมเพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับรัสเซีย โดยอ้างว่ายูเครน "ไม่มีไพ่ในมือ" ในการเจรจาครั้งนี้
ทรัมป์ระบุผ่านทรูธโซเชียลว่า "หลังจากที่ได้รับรู้และเข้าใจสถานการณ์ทางการทหารและเศรษฐกิจของรัสเซียและยูเครนอย่างเต็มที่แล้ว และได้เห็นปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับรัสเซีย ผมคิดว่ายูเครนที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป (EU) อยู่ในจุดที่สามารถต่อสู้และกอบกู้ยูเครนกลับคืนมาดังเดิมได้"
ทรัมป์บอกกับนักข่าวว่า ประเทศสมาชิกนาโตควรสอยเครื่องบินรัสเซียที่ละเมิดน่านฟ้าของตน ในการพบปะกับเซเลนสกีนอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในนิวยอร์กเมื่อวันอังคาร
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในจดหมายถึงประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เอสโตเนียระบุว่า เครื่องบินขับไล่ MiG-31 ของรัสเซียจำนวน 3 ลำ รุกล้ำเข้าน่านฟ้าเอสโตเนียเป็นระยะทาง 10 กม. และอยู่ในน่านฟ้านาน 12 นาที
อย่างไรก็ตาม ดมิทรี โปเลียนสกี รองผู้แทนถาวรคนแรกของรัสเซียประจำ UN ปฏิเสธว่า เครื่องบินขับไล่ของรัสเซียไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าของเอสโตเนียและกล่าวหาประเทศในยุโรปว่ามีความเกลียดชังต่อรัสเซีย
ด้านเกิง ชวง รองผู้แทนถาวรของจีนประจำ UN กล่าวเมื่อวันจันทร์ (22 ก.ย.) ว่า จีนเรียกร้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ในความสงบและยับยั้งชั่งใจ ชี้แจงข้อเท็จจริงและขจัดข้อสงสัยผ่านการเจรจาและการสื่อสาร หลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดและการตัดสินที่ผิดพลาด และป้องกันไม่ให้สถานการณ์ขยายตัวหรือทวีความรุนแรงขึ้น