ชินจิโร โคอิซูมิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของญี่ปุ่น ตัวเต็งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนต่อไป ตอบรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการดำเนินการของกระทรวงฯ เรื่องข้อตกลงให้สิทธิ์สำหรับองุ่นพันธุ์ดีในวันนี้ (26 ก.ย.) ซึ่งก่อให้เกิดการประท้วงอย่างเป็นทางการจากบรรดาผู้ผลิต
ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 25 ก.ย. โคทาโร นางาซากิ ผู้ว่าราชการจังหวัดยามานาชิ ซึ่งเป็นผู้ผลิตองุ่นไชน์มัสแคต (Shine Muscat) รายใหญ่ ได้วิพากษ์วิจารณ์กระทรวงฯ ที่เข้าร่วมการหารือกับนิวซีแลนด์เกี่ยวกับการเพาะปลูกผลไม้พันธุ์ดีโดยไม่ได้รับฟังข้อมูลหรือคำแนะนำจากผู้ผลิตมาก่อน โดยนางาซากิ รวมถึงตัวแทนจากสหกรณ์การเกษตรท้องถิ่น ได้เข้าพบโคอิซูมิเพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนและเรียกร้องให้มีมาตรการขยายตลาดส่งออก แทนที่จะออกใบอนุญาตเพาะปลูกเพื่อการผลิตในต่างประเทศ
โคอิซูมิ ซึ่งกำลังจะเผชิญกับการลงคะแนนเสียงครั้งสำคัญในสัปดาห์หน้าภายในพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่แทนนายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ กล่าวว่า กระทรวงฯ ไม่มีเจตนาที่จะมอบใบอนุญาตเพาะปลูกโดยไม่ปรึกษาหารือกับกลุ่มผู้ผลิตก่อน
โคอิซูมิกล่าวว่า เขาเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของผู้ว่าฯ นางาซากิ ที่ต้องการให้เพิ่มจำนวนประเทศที่ญี่ปุ่นสามารถส่งออกองุ่นไชน์มัสแคตได้ และจะไม่ดำเนินการออกใบอนุญาตโดยปราศจากความเข้าใจจากบรรดาผู้ว่าฯ และพื้นที่แหล่งผลิต
โคอิซูมิระบุว่า การออกใบอนุญาตเป็นนโยบายพื้นฐานที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเมื่อต้นปี 2568 สำหรับผลิตภัณฑ์บางประเภท
ทั้งนี้ พันธุ์ไชน์มัสแคตได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นเวลาราว 30 ปี ตั้งแต่ในช่วงปลายทศวรรษ 2523 โดยหน่วยงานเกษตรแห่งชาติ และได้รับการยกย่องให้เป็นสินค้าส่งออกที่มีอนาคตสดใส
อย่างไรก็ตาม ต้นกล้าขององุ่นไชน์มัสแคตไม่ได้รับการคุ้มครองนอกประเทศญี่ปุ่นในระยะแรก ทำให้ถูกนำออกไปยังประเทศจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งปัจจุบันประเทศเหล่านี้ได้ส่งออกองุ่นพันธุ์นี้ไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนที่ต่อมาญี่ปุ่นจะออกกฎหมายจำกัดการขายต้นกล้าในต่างประเทศในปี 2564