แหล่งข่าวจากกลุ่มฮามาสเปิดเผยว่า ฮามาสได้เริ่มการหารือและปรึกษากับกลุ่มปาเลสไตน์อื่น ๆ เกี่ยวกับแผนสันติภาพที่เสนอโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อยุติสงครามในฉนวนกาซา
แหล่งข่าวระบุว่า กาตาร์และอียิปต์ ซึ่งเป็นชาติเป็นกลาง ได้ทำการตรวจสอบแผนดังกล่าวก่อนที่จะนำเสนอต่อผู้นำฮามาสและกลุ่มอื่น ๆ ของปาเลสไตน์
แหล่งข่าวกล่าวว่า ฮามาสเปิดกว้างต่อข้อเสนอ ตราบใดที่ไม่บ่อนทำลายหลักการแห่งชาติของปาเลสไตน์
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวรายนี้กล่าวว่า แผนดังกล่าวเข้าข้างอิสราเอล และมีเงื่อนไขที่ไม่สมเหตุสมผลที่มุ่งทำให้ขบวนการฮามาสอ่อนแอลงทั้งทางการเมืองและการทหาร
เขากล่าวอีกว่า ข้อเสนอของสหรัฐไม่สะท้อนสิ่งที่ได้หารือกับชาติตะวันออกกลาง แต่กลับสอดคล้องกับจุดยืนของนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า ฮามาสจะต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่ร้ายแรง หากไม่ยอมรับแผนสันติภาพกาซา ซึ่งแผนดังกล่าวเรียกร้องให้มีการปลดอาวุธของกลุ่มฮามาส
"เราต้องการเพียงลายเซ็นเดียว แต่ถ้าพวกเขาไม่ยอมเซ็น ก็จะต้องชดใช้ลายเซ็นนั้นในนรก ผมหวังว่าพวกเขาจะเซ็นเพื่อประโยชน์ของตัวเขาเอง และสร้างบางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ" ปธน.ทรัมป์กล่าวต่อบรรดานายพลของสหรัฐที่เมืองควอนติโก รัฐเวอร์จิเนีย
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์บอกผู้สื่อข่าวว่า เขาจะให้เวลา 3-4 วันแก่ฮามาสเพื่อตอบรับต่อข้อเสนอนี้
แผนดังกล่าวเรียกร้องให้มีการหยุดยิง การปล่อยตัวประกันภายใน 72 ชั่วโมง การปลดอาวุธของฮามาส และการถอนทหารอิสราเอลออกจากกาซาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามมาด้วยการจัดตั้งคณะบริหารชั่วคราวสำหรับกาซา โดยมีปธน.ทรัมป์เป็นหัวหน้า
ข้อตกลงยังระบุด้วยว่า สมาชิกฮามาสจะถูกกันออกจากการมีบทบาทในรัฐบาลอนาคต แต่ผู้ที่ยอมรับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ จะได้รับการนิรโทษกรรม
ชาติมหาอำนาจของโลก รวมถึงชาติอาหรับและมุสลิม ต่างให้การต้อนรับต่อข้อเสนอนี้ แต่จนถึงขณะนี้ ฮามาสยังไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวเปิดเผยแผนสันติภาพจำนวน 20 ข้อของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อยุติความขัดแย้งในฉนวนกาซา โดยมีรายละเอียดดังนี้:-
1) กาซาจะเป็นเขตที่ปลอดจากการก่อการร้าย ซึ่งจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศเพื่อนบ้าน
2) กาซาจะได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวกาซา
3) หากทั้งสองฝ่ายยอมรับข้อเสนอนี้ สงครามจะยุติลงทันที โดยกองทัพอิสราเอลจะถอนกำลังไปยังแนวที่ตกลงกันไว้เพื่อเตรียมการสำหรับการปล่อยตัวประกัน ซึ่งในระหว่างนี้ ปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดจะถูกระงับ และแนวรบทั้งหมดจะถูกตรึงเอาไว้จนกว่าจะมีการบรรลุเงื่อนไขการถอนกำลังทหารแบบเป็นขั้นตอนจนเสร็จสมบูรณ์
4) ภายในเวลา 72 ชั่วโมง หลังจากอิสราเอลประกาศยอมรับข้อตกลงนี้ ตัวประกันทุกราย ทั้งที่มีชีวิตและเสียชีวิตแล้ว จะถูกส่งกลับคืนสู่อิสราเอล
5) เมื่อมีการส่งคืนตัวประกันทั้งหมด อิสราเอลจะปล่อยนักโทษที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตจำนวน 250 ราย และชาวกาซา 1,700 รายที่ถูกควบคุมตัวหลังเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2566 รวมทั้งผู้หญิงและเด็กทั้งหมดที่ถูกจับกุมตัวในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับร่างของชาวอิสราเอลที่ถูกส่งคืนนั้น ทางการอิสราเอลจะคืนร่างของชาวกาซาที่เสียชีวิตจำนวน 15 รายต่อร่างของชาวอิสราเอล 1 ราย
6) เมื่อมีการส่งคืนตัวประกันทั้งหมดแล้ว สมาชิกฮามาสที่ให้คำมั่นว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติและยินยอมปลดอาวุธของตน จะได้รับการนิรโทษกรรม ส่วนสมาชิกฮามาสที่ต้องการออกจากกาซ่า จะได้รับการจัดเตรียมเส้นทางเดินทางที่ปลอดภัยไปยังประเทศที่ยินดีให้การต้อนรับ
7) เมื่อมีการยอมรับข้อตกลงนี้ ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมดจะถูกส่งเข้าสู่ฉนวนกาซาในทันที โดยอย่างน้อยต้องมีการส่งความช่วยเหลือตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงด้านมนุษยธรรมวันที่ 19 มกราคม 2568 ซึ่งรวมถึงการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน (น้ำ ไฟฟ้า ระบบบำบัดน้ำเสีย) การบูรณะโรงพยาบาลและโรงอบขนมปัง และการนำเข้าเครื่องมือที่จำเป็นเพื่อเคลียร์ซากปรักหักพังและเปิดถนนหนทาง
8) การลำเลียงและการกระจายความช่วยเหลือภายในฉนวนกาซาจะดำเนินไปโดยไม่ถูกรบกวนจากทั้งสองฝ่าย ผ่านทางองค์การสหประชาชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสภาเสี้ยววงเดือนแดง และองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่าย และการเปิดจุดผ่านแดนราฟาห์ในทั้งสองทิศทาง จะอยู่ภายใต้กลไกเดียวกับที่กำหนดในข้อตกลงเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568
9) กาซาจะถูกบริหารภายใต้การปกครองชั่วคราวในระยะเปลี่ยนผ่านโดยกลุ่มเทคโนแครตที่ไม่ฝักใฝ่การเมืองของชาวปาเลสไตน์ ซึ่งรับผิดชอบต่อการดำเนินงานบริการสาธารณะและงานเทศบาลในชีวิตประจำวันสำหรับชาวกาซา โดยคณะกรรมการนี้จะประกอบด้วยชาวปาเลสไตน์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ ภายใต้การกำกับและควบคุมโดยองค์กรเปลี่ยนผ่านระหว่างประเทศชุดใหม่ที่เรียกว่า "คณะกรรมการแห่งสันติภาพ (Board of Peace)" ซึ่งจะมีประธานคือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ ทรัมป์ พร้อมด้วยสมาชิกและผู้นำประเทศอื่น ๆ ที่จะมีการประกาศในภายหลัง รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีโทนี่ แบลร์ แห่งอังกฤษ โดยองค์กรนี้จะวางกรอบการทำงานและบริหารจัดการด้านเงินทุนเพื่อการฟื้นฟูกาซา จนกว่าองค์การปาเลสไตน์ (PA) จะเสร็จสิ้นการปฏิรูปตามข้อเสนอหลายฉบับ รวมถึงแผนสันติภาพของปธน.ทรัมป์ในปี 2563 และข้อเสนอซาอุดีอาระเบีย-ฝรั่งเศส และสามารถกลับมาควบคุมกาซาได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ โดยองค์กรนี้จะใช้มาตรฐานสากลที่ดีที่สุดเพื่อสร้างการปกครองที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และสามารถดึงดูดการลงทุน
10) แผนพัฒนาเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์เพื่อสร้างและฟื้นฟูกาซา จะถูกกำหนดขึ้นโดยคณะผู้เชี่ยวชาญที่เคยมีบทบาทในการสร้างเมืองสมัยใหม่ที่เจริญรุ่งเรืองในตะวันออกกลาง โดยมีข้อเสนอการลงทุนและแผนการพัฒนาหลากหลายจากกลุ่มนานาชาติ ซึ่งจะถูกพิจารณาและประสานเข้ากับกรอบความมั่นคงและการปกครอง เพื่อดึงดูดและอำนวยความสะดวกในการลงทุนที่จะสร้างงาน โอกาส และความหวังให้กับอนาคตของกาซ่า
11) จะมีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ พร้อมกับการเจรจากับประเทศที่เข้าร่วมเพื่อกำหนดอัตราภาษีศุลกากรในระดับต่ำ
12) จะไม่มีการบังคับให้ใครต้องออกจากกาซา และผู้ที่ต้องการออกไปก็จะมีสิทธิที่จะออกและกลับเข้ามาได้ โดยจะมีการสนับสนุนให้ประชาชนอยู่ต่อ และมอบโอกาสให้พวกเขาสร้างกาซาที่ดีกว่า
13) ฮามาสและกลุ่มอื่น ๆ จะต้องไม่เข้ามามีบทบาทใด ๆ ในการปกครองกาซา ไม่ว่าทางตรง ทางอ้อม หรือในรูปแบบใดก็ตาม โดยโครงสร้างพื้นฐานทางการทหาร การก่อการร้าย และเชิงรุกทั้งหมด รวมถึงอุโมงค์และโรงงานผลิตอาวุธ จะต้องถูกทำลายและไม่ถูกสร้างขึ้นใหม่ และจะมีกระบวนการปลดอาวุธของกาซาภายใต้การกำกับดูแลของผู้ตรวจสอบอิสระ กาซาใหม่จะมุ่งมั่นสร้างเศรษฐกิจที่เจริญรุ่งเรืองและอยู่ร่วมกันอย่างสันติกับประเทศเพื่อนบ้าน
14) พันธมิตรในภูมิภาคจะให้การรับประกันเพื่อให้มั่นใจว่าฮามาสและกลุ่มต่าง ๆ จะปฏิบัติตามพันธกรณี และกาซาใหม่จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อเพื่อนบ้านหรือประชาชนของตน
15) สหรัฐจะร่วมมือกับพันธมิตรอาหรับและนานาชาติในการพัฒนากองกำลังรักษาสันติภาพระหว่างประเทศ (International Stabilization Force ISF) เพื่อส่งเข้าไปประจำการในกาซาโดยทันที ซึ่ง ISF จะทำการฝึกและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจปาเลสไตน์ในกาซา โดยผ่านการปรึกษากับจอร์แดนและอียิปต์ที่มีประสบการณ์ในด้านนี้ โดย ISF จะร่วมมือกับอิสราเอลและอียิปต์เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยบริเวณพรมแดน ควบคู่ไปกับตำรวจปาเลสไตน์ที่ได้รับการฝึกใหม่ สิ่งสำคัญคือการป้องกันไม่ให้อาวุธและยุทโธปกรณ์ถูกลำเลียงเข้าสู่กาซา และให้มีการอำนวยความสะดวกในการนำเข้าสินค้าเพื่อการสร้างและฟื้นฟูกาซาอย่างรวดเร็วและปลอดภัย
16) อิสราเอลจะไม่ยึดครองหรือผนวกกาซา ขณะที่ ISF ควบคุมและสร้างเสถียรภาพ ส่วนกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) จะถอนกำลังตามกรอบเวลาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการปลดอาวุธ ซึ่งจะถูกกำหนดโดย IDF, ISF, ผู้ค้ำประกัน และสหรัฐ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างกาซาที่ปลอดภัยและไม่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอล อียิปต์ หรือพลเมืองของพวกเขา ในทางปฏิบัติ IDF จะทยอยส่งมอบพื้นที่กาซาที่ตนควบคุมให้แก่ ISF ตามข้อตกลง จนกว่าจะถอนกำลังออกจากกาซาอย่างสมบูรณ์ ยกเว้นพื้นที่ตามแนวป้องกันความปลอดภัยที่จะคงอยู่จนกว่ากาซาจะมีความปลอดภัยจากภัยก่อการร้ายที่อาจกลับมาอีก
17) หากฮามาสล่าช้าหรือปฏิเสธข้อเสนอนี้ มาตรการต่าง ๆ ข้างต้น รวมถึงปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือจะมีการดำเนินการในพื้นที่ปลอดจากการก่อการร้ายซึ่งมีการส่งมอบจาก IDF ให้แก่ ISF
18) จะมีการจัดตั้งกระบวนการสนทนาระหว่างศาสนา (Interfaith Dialogue) โดยอิงคุณค่าของความอดทนและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เพื่อพยายามเปลี่ยนทัศนคติของชาวปาเลสไตน์และอิสราเอล โดยเน้นย้ำถึงผลประโยชน์ที่ได้จากสันติภาพ
19) ขณะที่การพัฒนาฟื้นฟูกาซาดำเนินไป และเมื่อการปฏิรูปของ PA มีการดำเนินการอย่างจริงจัง ก็อาจปูทางไปสู่การกำหนดอนาคตของตนเองและการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์
20) สหรัฐจะจัดตั้งการเจรจาระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ เพื่อกำหนดกรอบทางการเมืองสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขและเจริญรุ่งเรือง