ประธานาธิบดี ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำบราซิล ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ในวันนี้ โดยการสนทนาดังกล่าวดำเนินไปเป็นเวลาราว 30 นาที
ทั้งนี้ ปธน.ลูลาเรียกร้องให้ปธน.ทรัมป์ยกเลิกภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากบราซิล และยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศ หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้เรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงถึง 50% ต่อสินค้าหลายรายการของบราซิล และใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อผู้พิพากษาคนหนึ่งของบราซิล ในความพยายามของสหรัฐที่จะขัดขวางการพิจารณาคดีของอดีตประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนาโร ซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาพยายามก่อรัฐประหารในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ปธน.ลูลาและปธน.ทรัมป์เห็นพ้องที่จะจัดการประชุมแบบตัวต่อตัวในเร็ว ๆ นี้ โดยปธน.ลูลาเสนอว่าอาจจัดขึ้นนอกรอบการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่มาเลเซียในวันที่ 26-28 ต.ค.
การสนทนาทางโทรศัพท์ดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้การคลายความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและบราซิล
นายแฟร์นันโด ฮัดแดด รัฐมนตรีคลังบราซิล กล่าวว่า การสนทนาในครั้งนี้เป็นไปในทิศทางเชิงบวก หลังจากผู้นำทั้งสองได้พูดคุยกันเพียงไม่กี่วินาทีในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์กเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งในครั้งนั้น ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาและปธน.ลูลามี "เคมีที่เข้ากันได้ดี" และได้หารือถึงความเป็นไปได้ที่จะพบปะกันเพื่อหารือประเด็นความขัดแย้งต่าง ๆ ซึ่งนับจากนั้น เจ้าหน้าที่ของสหรัฐและบราซิลได้เริ่มเตรียมการสำหรับการประชุมแบบตัวต่อตัวระหว่างประธานาธิบดีทั้งสอง และยังได้เปิดช่องทางการติดต่อในระดับสูงอีกครั้ง