อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ขึ้นกล่าวปราศรัยในการชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (8 ต.ค.) ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของอิสราเอลในฉนวนกาซาอย่างดุเดือด ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่อันวาร์จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรคนสำคัญของอิสราเอล
อันวาร์กล่าวต่อผู้ชุมนุมหลายพันคนว่า "สิ่งที่เรากำลังต่อสู้คือยักษ์ใหญ่อิสราเอล แต่เราไม่หวาดกลัวหรือวิตกกังวลแม้แต่น้อย" พร้อมยืนยันว่าไม่มีแผนยกเลิกคำเชิญทรัมป์ และเน้นย้ำว่า "ผมต้องการเจรจา"
การชุมนุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากทางการอิสราเอลได้ควบคุมตัวนักกิจกรรมชาวมาเลเซียซึ่งเข้าร่วมกองเรือที่พยายามส่งมอบความช่วยเหลือไปยังฉนวนกาซา นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชาวมาเลเซียหลายพันคนก็ได้รวมตัวกันประท้วงหน้าสถานทูตสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลวอชิงตันเข้ามาดำเนินการต่อกรณีอิสราเอล
ความขัดแย้งในฉนวนกาซาส่อเค้าว่าจะสร้างความซับซ้อนให้กับการเดินทางเยือนของทรัมป์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ระหว่างวันที่ 26-28 ต.ค. นี้ ขณะเดียวกัน พรรคฝ่ายค้านหลักของมาเลเซียได้เรียกร้องขอเข้าพบผู้นำสหรัฐฯ เพื่อประท้วงการกระทำของอิสราเอล และมีแผนจัดการชุมนุมสาธารณะระหว่างการเยือนดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ อันวาร์กำลังเผชิญบททดสอบทางการเมืองที่ละเอียดอ่อน ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวที่เพิ่มสูงขึ้นในหมู่ประชาชนต่อความเสียหายและวิกฤตมนุษยธรรมในกาซา ขณะที่สหรัฐฯ ได้ให้การรับรองอย่างแข็งขันถึงสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง และในขณะเดียวกัน อันวาร์ก็จำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์กับทรัมป์ด้วย
นอกจากนี้ นายกฯ มาเลเซียยังต้องเอาใจฐานเสียงในประเทศที่มองว่าการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์เป็นหน้าที่ทางศาสนา โดยนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายปี 2565 อันวาร์ได้พยายามเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำอิสลามผ่านการขยายบทบาทของหน่วยงานรัฐบาลกลางที่กำกับดูแลกิจการศาสนาอิสลาม