นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้มีการปฏิรูปคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC)
ทั้งนี้ นายกูเตอร์เรสกล่าวในวันนี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 80 ปีของการก่อตั้งคณะมนตรีฯ
'คณะมนตรีฯ เป็นสิ่งจำเป็น และเป็นองค์กรที่มีพลัง แต่ความชอบธรรมขององค์กรยังคงเปราะบาง' นายกูเตอร์เรสกล่าว
นายกูเตอร์เรสได้ชื่นชมบทบาทของคณะมนตรีฯ ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยกัมพูชาให้ฟื้นตัวจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การช่วยให้แอฟริกาใต้เปลี่ยนผ่านจากระบอบการแบ่งแยกสีผิว ไปจนถึงความสำเร็จในภารกิจรักษาสันติภาพในเซียร์ราลีโอน ติมอร์-เลสเต และไลบีเรีย
อย่างไรก็ดี นายกูเตอร์เรสเตือนว่า ความแตกแยกในปัจจุบัน และการดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียวของประเทศสมาชิก ได้บ่อนทำลายคณะมนตรีฯ
'การปฏิรูปคณะมนตรีความมั่นคงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน และล่าช้ามานานเกินไปแล้ว หากเราต้องการรักษาระเบียบและความปลอดภัยของโลก' เขากล่าว พร้อมสนับสนุนข้อเสนอให้มีการขยายจำนวนสมาชิกของคณะมนตรีฯ เพื่อสะท้อนความเป็นจริงของศตวรรษที่ 21
ปัจจุบัน คณะมนตรีฯ มีสมาชิก 15 ประเทศ โดย 5 ประเทศเป็นสมาชิกถาวร ได้แก่ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐ ซึ่งแต่ละประเทศมีสิทธิวีโต้
คำกล่าวของนายกูเตอร์เรสมีขึ้น ท่ามกลางความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นต่อความล้มเหลวของคณะมนตรีฯ ในการรับมือกับความขัดแย้งในยูเครน กาซา ซูดาน และเมียนมา โดยผู้วิจารณ์ระบุว่า โครงสร้างสิทธิวีโต้ของสมาชิกถาวรไม่สะท้อนถึงดุลอำนาจหรือผลประโยชน์ของโลกยุคปัจจุบันอีกต่อไป
'การขยายจำนวนสมาชิกไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความยุติธรรมเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับประสิทธิภาพด้วย เนื่องจากสามารถช่วยคลี่คลายภาวะชะงักงัน และสร้างเสถียรภาพในโลกที่มีหลายขั้วมากขึ้น' นายกูเตอร์เรสกล่าว พร้อมกับชื่นชมฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรที่ได้ริเริ่มแนวทางจำกัดการใช้สิทธิวีโต้