สหพันธ์แรงงานข้าราชการแห่งอเมริกา (AFGE) ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานของพนักงานรัฐบาลกลางที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ เรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ซึ่งสหภาพฯ ระบุว่าเป็นวิกฤตการณ์ที่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ทั้งนี้ ขณะที่ภาวะชัตดาวน์กำลังใกล้ครบเวลา 1 เดือน AFGE ซึ่งเป็นตัวแทนข้าราชการกว่า 800,000 คน ออกแถลงการณ์ระบุว่า การปิดหน่วยงานรัฐบาลครั้งนี้ กำลังลงโทษข้าราชการซึ่งเป็นผู้ที่ขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าต่อไป
'ทั้งสองพรรคการเมืองได้แสดงจุดยืนของตนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเรื่องนี้จะจบลงเมื่อใด ผมขอแสดงจุดยืนของผมบ้าง ถึงเวลาที่ต้องผ่านร่างกฎหมายงบประมาณ และยุติภาวะชัตดาวน์เสียที อย่าได้เล่นเกมการเมือง กรุณาทำให้ข้าราชการทุกคนกลับเข้าทำงาน พร้อมรับค่าจ้างย้อนหลัง วันนี้เลย' นายเอเวอเร็ตต์ เคลลี ประธาน AFGE กล่าวในแถลงการณ์
ทั้งนี้ รัฐบาลกลางสหรัฐปิดทำการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม หลังจากที่วุฒิสภาประสบความล้มเหลวในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณที่จะต่ออายุการจัดสรรงบประมาณในระดับเดิมต่อไปอีก 7 สัปดาห์ ขณะที่พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับการขยายเงินอุดหนุนในโครงการประกันสุขภาพที่จะหมดอายุในสิ้นปีนี้
การชัตดาวน์ในครั้งนี้ส่งผลให้ข้าราชการกลางอย่างน้อย 670,000 คนถูกพักงาน และอีกประมาณ 730,000 คนยังคงต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำการปลดเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมาก และยกเลิกโครงการของพรรคเดโมแครตที่เขาไม่เห็นด้วย รวมทั้งขู่ที่จะไม่จ่ายค่าจ้างย้อนหลังให้แก่เจ้าหน้าที่ซึ่งถูกพักงาน
นายเคลลีเรียกสถานการณ์นี้ว่าเป็น "ความอับอายของชาติ" เพราะเจ้าหน้าที่รัฐต้องต่อแถวรับอาหารจากธนาคารอาหาร เนื่องจากยังไม่ได้รับเงินเดือนในช่วงชัตดาวน์
'ถึงเวลาที่ผู้นำของเราต้องหันมาแก้ไขปัญหาเพื่อประชาชนชาวอเมริกัน แทนที่จะมัวแต่โต้เถียงกันว่าใครควรจะถูกตำหนิจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล' นายเคลลีกล่าว