กองทัพอิสราเอลได้ส่งกำลังทหารเข้าปฏิบัติการจู่โจมในหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเลบานอนช่วงกลางดึกล่วงเข้าวันพฤหัสบดี (30 ต.ค.) ส่งผลให้พนักงานเทศบาลคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตขณะกำลังนอนหลับพักผ่อนในที่ทำงาน ตามการรายงานของสื่อทางการเลบานอนวันนี้
เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิงที่ทำขึ้นเมื่อเดือนพ.ย. 2567 ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ แต่ถึงกระนั้น อิสราเอลยังคงตรึงกำลังทหารไว้ใน 5 พื้นที่ทางตอนใต้ของเลบานอน และเดินหน้าโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นในระยะหลัง
สำนักข่าวแห่งชาติเลบานอน (NNA) รายงานว่า "กองกำลังของอิสราเอลได้ปฏิบัติการจู่โจมที่ร้ายแรงและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยการล่วงล้ำเข้ามาในหมู่บ้านบลิดา (Blida) เมื่อเวลาประมาณ 01:30 น. ซึ่งอยู่ลึกจากชายแดนกว่า 1 กิโลเมตร โดยมีขบวนยานพาหนะให้การสนับสนุน"
"จากนั้นกองกำลังได้บุกเข้าไปในอาคารเทศบาล และลงมือสังหารนายอิบราฮิม ซาลาเมห์ พนักงานซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ภายใน" รายงานยังระบุด้วยว่า ปฏิบัติการดังกล่าวใช้เวลาหลายชั่วโมง ก่อนที่กองกำลังอิสราเอลจะถอนตัวออกไปในช่วงรุ่งสาง
ด้านกองทัพอิสราเอลออกมายอมรับถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยชี้แจงว่ากองกำลังได้เปิดฉากยิงระหว่างปฏิบัติการทำลายโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ โฆษกกองทัพอิสราเอลระบุว่า "ระหว่างปฏิบัติการ เราตรวจพบภัยคุกคามซึ่งหน้าต่อกำลังพล จึงจำเป็นต้องเปิดฉากยิงเพื่อระงับภัยคุกคาม" พร้อมเสริมว่าเหตุการณ์นี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
นายกรัฐมนตรีเลบานอน นาวาฟ ซาลาม ได้ออกมาประณามอย่างรุนแรงต่อเหตุการณ์นี้ โดยชี้ว่าเป็นการ "โจมตีอย่างอุกอาจต่อสถาบันและอธิปไตยของรัฐเลบานอน"
ขณะเดียวกัน NNA ยังรายงานว่า ในหมู่บ้านอาเดสเซห์ที่อยู่ใกล้เคียง กองกำลังอิสราเอลได้จุดชนวนระเบิดทำลายหอประชุมสำหรับประกอบพิธีทางศาสนาในช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน
อิสราเอลอ้างว่าปฏิบัติการต่าง ๆ มีขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์กลับมาจัดตั้งฐานที่มั่นทางทหารในเลบานอนตอนใต้ได้อีกครั้ง ขณะที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และรัฐบาลเลบานอนยืนยันว่าการกระทำของอิสราเอลคือการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
ก่อนหน้านี้ โฆษกคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพิ่งเปิดเผยตัวเลขเมื่อวันอังคาร (28 ต.ค.) ว่า นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ กองกำลังอิสราเอลได้สังหารพลเรือนในเลบานอนไปแล้วถึง 111 คน