ดิก เชนีย์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวัย 84 ปี จากภาวะแทรกซ้อนของโรคปอดบวมและโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยครอบครัวของเชนีย์ได้ออกแถลงการณ์ในวันอังคาร (4 พ.ย.) ว่า เชนีย์ได้ถึงแก่อสัญกรรมในวันจันทร์ที่ 3 พ.ย. ตามเวลาสหรัฐฯ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เชนีย์ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2544 - 2552 ในสมัยของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช จากพรรครีพับลิกัน โดยเขาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจนำสหรัฐฯ เข้าทำสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน
ด้านหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า เชนีย์ "ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นรองประธานาธิบดีที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา"
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เชนีย์ได้ออกมาต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันอย่างเปิดเผย โดยบุตรสาวของเขา ลิซ เชนีย์ กลายเป็นหนึ่งในนักวิจารณ์ทรัมป์ที่ดุดันที่สุดในสภาคองเกรส หลังเกิดเหตุการณ์จลาจลที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 ซึ่ง ดิก เชนีย์ ก็สนับสนุนจุดยืนของบุตรสาวอย่างแข็งขัน
ในการเลือกตั้งปี 2567 เชนีย์ได้สร้างความตกตะลึงให้กับชาวอเมริกันจากทุกฝ่ายการเมือง ด้วยการประกาศสนับสนุน คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต และประณามทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นคู่แข่งของแฮร์ริส
รายงานระบุว่า หลังออกจากตำแหน่งรองประธานาธิบดีในปี 2552 เชนีย์ยังคงเป็นบุคคลทางการเมืองที่มีอิทธิพล โดยเฉพาะในหมู่นักอนุรักษ์นิยม ผ่านการกล่าวสุนทรพจน์และหนังสือบันทึกความทรงจำ ซึ่งเขาได้ปกป้องการตัดสินใจและนโยบายของตนเองในขณะดำรงตำแหน่ง