รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลาง เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งระงับชั่วคราวแบบเร่งด่วน ต่อคำสั่งของผู้พิพากษาที่ให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณอย่างเต็มจำนวนให้แก่โครงการสวัสดิการอาหาร (SNAP) หรือโครงการสแตมป์อาหาร สำหรับชาวอเมริกันที่ยากไร้จำนวนกว่า 42 ล้านคนสำหรับเดือนพฤศจิกายนภายในวันนี้ (7 พ.ย.)
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เขต 1 เพื่อขอให้ศาลอนุญาตให้รัฐบาลจ่ายเงินเพียง 65% ของ SNAP ในเดือนพฤศจิกายน โดยใช้เงินจากกองทุนสำรองฉุกเฉิน ซึ่งเป็นข้อเสนอที่รัฐบาลได้ยื่นต่อผู้พิพากษาเมื่อสัปดาห์ก่อน
คำร้องนี้มีขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังจากผู้พิพากษาแจ็ก แมคคอนเนลล์ จากศาลแขวงสหรัฐ ประจำรัฐโรดไอแลนด์ มีคำสั่งปฏิเสธข้อเสนอการจ่ายเงินเพียงบางส่วน และสั่งให้รัฐบาลต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน
ผู้พิพากษาแมคคอนเนลล์ได้สั่งให้รัฐบาลใช้งบประมาณจากกองทุนตามมาตรา 32 ร่วมกับงบประมาณ 4.65 พันล้านดอลลาร์ที่มีอยู่แล้วในกองทุนสำรองที่สภาคองเกรสจัดสรรไว้เพื่อให้สามารถจ่ายสวัสดิการ SNAP ได้เต็มจำนวน แต่รัฐบาลปฏิเสธที่จะใช้เงินจากกองทุนตามมาตรา 32 เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทรัมป์ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลจะระงับการจ่ายสวัสดิการ SNAP ทั้งหมดในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากยังไม่มีงบประมาณจากสภาคองเกรสสำหรับโครงการนี้ ขณะที่รัฐบาลยังคงปิดทำการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม