นักเคลื่อนไหวของกัมพูชาเรียกร้องให้รัฐบาลยื่นฟ้องฉุกเฉินกล่าวโทษประเทศไทยต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หลังจากที่รัฐบาลไทยประกาศถอนตัวจากข้อตกลงสันติภาพระหว่างทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ นายเมน แน็ต ผู้นำองค์กร Cambodia Watch Council ระบุว่า กัมพูชาควรดำเนินการทางกฎหมายและทางการทูตอย่างเร่งด่วนต่อการที่ไทยยกเลิกข้อตกลงสันติภาพ
นอกจากนี้ นายเมน แน็ต เรียกร้องให้รัฐบาลส่งคำร้องอย่างเป็นทางการต่อ ICJ โดยใช้เอกสารประวัติศาสตร์สำคัญ เช่น สนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม, แผนที่แนบท้ายของฝรั่งเศสที่กำหนดเส้นเขตแดน, ข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ ตลอดจนรายงานจากคณะผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) และคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT)
นายเมน แน็ต ยังเรียกร้องให้รัฐบาลหารือกับสหรัฐและมาเลเซีย และใช้ช่องทางการทูตกดดันให้ไทยกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายเมียส นี นักวิจัยด้านการพัฒนาสังคม ระบุว่า กัมพูชาควรเพิ่มความเข้มแข็งต่อการป้องกันประเทศ เพื่อตอบโต้สิ่งที่เขาเรียกว่า "การกระทำที่ยั่วยุและคาดเดาไม่ได้ของไทย" โดยเตือนว่าสถานการณ์ในขณะนี้มีความเสี่ยงมากกว่าการปะทะกันตามแนวชายแดนที่เกิดขึ้นเป็นเวลา 5 วันในเดือนกรกฎาคม
ส่วนนายกัง ริทคิรี อดีตทนายความศาลพิเศษคดีเขมรแดง ระบุว่า ประเทศไทยได้ใช้จุดยืนแสวงหาสันติภาพของกัมพูชาเป็นอาวุธทางการเมือง นับตั้งแต่มีการลงนามในข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ผู้เชี่ยวชาญมองว่าความสงบที่เปราะบางตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาได้เข้าสู่ระยะที่มีความอันตรายมากขึ้น ซึ่งการใช้แนวทางการทูตและความยับยั้งชั่งใจจะเป็นปัจจัยชี้ขาดว่าทั้งสองประเทศจะสามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ารอบใหม่ได้หรือไม่