ศาลฎีกาสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันพุธ (12 พ.ย.) ว่า จะรับฟังการโต้แย้งในวันที่ 21 ม.ค. 2569 กรณีความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะปลด ลิซา คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและท้าทายความเป็นอิสระของเฟด
คุกซึ่งเป็นสตรีผิวดำคนแรกที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการเฟด ได้ยื่นฟ้องทรัมป์ในเดือนส.ค. หลังจากที่ทรัมป์ประกาศว่าจะปลดเธอ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีพยายามปลดเจ้าหน้าที่เฟด โดยคุกระบุว่า ข้อกล่าวอ้างของทรัมป์ไม่ได้ให้สิทธิ์ทางกฎหมายแก่ประธานาธิบดีในการปลดเธอ และเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อไล่เธอออกจากตำแหน่งเนื่องจากท่าทีด้านนโยบายการเงินของเธอ
ก่อนหน้านี้ในเดือนต.ค. ศาลฎีกาได้ระบุว่าจะรับฟังการโต้แย้งในคดีนี้ก่อนที่จะตัดสินคำร้องของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับการยกเลิกคำสั่งของผู้พิพากษาที่ระงับชั่วคราวไม่ให้ทรัมป์ปลดคุก โดยการระงับชั่วคราวดังกล่าวทำให้คุกยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไป
ทั้งนี้ ในการก่อตั้งเฟดเมื่อปี 2456 นั้น รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านกฎหมาย Federal Reserve Act ซึ่งมีข้อกำหนดเพื่อปกป้องธนาคารกลางจากการแทรกแซงทางการเมือง กำหนดให้ผู้ว่าการสามารถถูกปลดโดยประธานาธิบดีได้ก็ต่อเมื่อมี "เหตุผล" แต่กฎหมายไม่ได้ระบุความหมายของคำนี้หรือขั้นตอนการปลดอย่างชัดเจน และกฎหมายนี้ยังไม่เคยถูกนำไปพิจารณาในศาล
เจีย คอบบ์ ผู้พิพากษาเขตวอชิงตัน ดี.ซี. ตัดสินเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ว่า ข้อกล่าวอ้างของทรัมป์ที่ว่าคุกกระทำการทุจริตสินเชื่อที่อยู่อาศัยก่อนเข้ารับตำแหน่งซึ่งคุกปฏิเสธนั้น ไม่เพียงพอที่จะเป็นเหตุผลในการปลดคุกตามกฎหมาย Federal Reserve Act