สหรัฐฯ ขึ้นบัญชี "แอนติฟา" ในยุโรปเป็นผู้ก่อการร้าย สนองนโยบายทรัมป์ปราบกลุ่มซ้ายหัวรุนแรง

ข่าวต่างประเทศ Friday November 14, 2025 13:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศขึ้นบัญชี 4 องค์กรในเยอรมนี อิตาลี และกรีซ ในฐานะผู้ก่อการร้ายระดับโลก พร้อมทั้งตราหน้าว่าเป็น "กลุ่มแอนติฟาหัวรุนแรง" อันเป็นความเคลื่อนไหวที่สอดรับกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมุ่งหมายจะดำเนินมาตรการต่อกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้าย

มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า เขาได้ประกาศขึ้นบัญชีกลุ่ม "แอนติฟา ออสต์" (Antifa Ost) ซึ่งมีฐานที่มั่นในเยอรมนีในฐานะ "ผู้ก่อการร้ายระดับโลกที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ" พร้อมด้วยอีก 3 กลุ่มในกรีซและอิตาลี โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นไปเพื่อสืบสานปณิธานของปธน.ทรัมป์ ที่จะ "ตอบโต้แคมเปญทางการเมืองที่ใช้ความรุนแรงของกลุ่มแอนติฟา"

รูบิโอยังกล่าวด้วยว่า เขามีความจำนงที่จะยกระดับกลุ่มเหล่านี้ให้เป็น "องค์กรก่อการร้ายต่างชาติ" นับตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.เป็นต้นไป พร้อมทั้งสำทับว่า รัฐบาลวอชิงตันจะขยายเป้าหมายไปยังกลุ่มอื่น ๆ ทั่วโลกต่อไป

"กลุ่มก้อนอันมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ ล้วนยึดมั่นในอุดมการณ์ปฏิวัติแนวอนาธิปไตยหรือลัทธิมาร์กซิสต์ ซึ่งครอบคลุมถึงแนวคิดต่อต้านอเมริกัน 'ต่อต้านทุนนิยม' และต่อต้านศาสนาคริสต์ และใช้อุดมการณ์เหล่านี้เป็นเครื่องมือปลุกปั่นและสร้างความชอบธรรมให้แก่การใช้ความรุนแรงทั้งในและนอกประเทศ" รูบิโอกล่าว"สหรัฐอเมริกาจะยังคงใช้ทุกเครื่องมือที่มีอยู่เพื่อพิทักษ์ความมั่นคงแห่งชาติและความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทั้งจะตัดขาดช่องทางการสนับสนุนทางการเงินและทรัพยากรทั้งหลายแก่ผู้ก่อการร้าย ซึ่งรวมถึงการขยายผลไปยังกลุ่มแอนติฟากลุ่มอื่นทั่วโลก"

ปธน.ทรัมป์และพันธมิตรในพรรครีพับลิกันได้กล่าวหาบรรดาผู้สมาทานแนวทางของกลุ่มแอนติฟาว่า เป็นผู้จุดชนวนความรุนแรงทางการเมือง สืบเนื่องจากเหตุลอบสังหาร ชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวฝ่ายอนุรักษนิยมเมื่อเดือนก.ย. ประกอบกับสถานการณ์ประท้วงต่อต้านหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลางในหลายหัวเมือง อาทิ ลอสแอนเจลิส ชิคาโก และพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน

ครั้งที่ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกระหว่างปี 2560-2564 ทรัมป์เคยประกาศกร้าวว่าจะดำเนินการปราบปรามกลุ่มแอนติฟา และเมื่อเดือนก.ย. ที่ผ่านมา ทรัมป์ก็ได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหารระบุให้แอนติฟาเป็นองค์กรก่อการร้าย

ตามรายงานของหน่วยงานวิจัยแห่งรัฐสภา เมื่อปี 2563 ระบุว่า Antifa เป็นคำย่อมาจาก "anti-fascist" (ต่อต้านฟาสซิสต์) เป็นขบวนการเคลื่อนไหวที่ไม่ได้มีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ ไม่มีโครงสร้าง ลำดับชั้นการบังคับบัญชา หรือผู้นำที่ชัดเจน

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ให้ข้อมูลว่า กลุ่มแอนติฟา ออสต์ ได้ปฏิบัติการโจมตีบุคคลที่ทางกลุ่ม "หมายหัวว่าเป็น 'พวกฟาสซิสต์' หรือเป็นส่วนหนึ่งของ 'แวดวงฝ่ายขวา' ในเยอรมนีหลายครั้งระหว่างปี 2561 ถึง 2566 ทั้งยังถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีต่อเนื่องในกรุงบูดาเปสต์เมื่อกลางเดือนก.พ. 2566"

หน่วยข่าวกรองภายในประเทศของเยอรมนีได้ระบุไว้ในรายงานประจำปี 2567 ว่า กลุ่มแอนติฟา ออสต์ คือเครือข่ายที่นิยมความรุนแรง

บุคคล 4 รายที่เกี่ยวพันกับกลุ่มดังกล่าวถูกจับกุมระหว่างเดือนธ.ค. 2566 ถึงพ.ย. 2567 ในข้อหาพุ่งเป้าโจมตีรุนแรงต่อบุคคลที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นพวกขวาจัด

แม้การจับกุมจะทำให้กลุ่มอ่อนกำลังลง ทว่ารายงานฉบับเดียวกันได้เตือนว่า สมาชิกของกลุ่มยังคงมุ่งเป้าไปที่พรรค AfD ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขวาจัดของเยอรมนี และเป็นพรรคที่พยายามสานสัมพันธ์กับรัฐบาลทรัมป์

นอกเหนือจากกลุ่มแอนติฟา ออสต์ ในเยอรมนีแล้ว รัฐบาลวอชิงตันยังได้ขึ้นบัญชีก่อการร้ายต่อกลุ่ม "สหพันธ์อนาธิปไตยอย่างไม่เป็นทางการ/แนวร่วมปฏิวัติสากล" (Informal Anarchist Federation/International Revolutionary Front) แห่งอิตาลี ตลอดจนกลุ่ม "ยุติธรรมกรรมาชีพติดอาวุธ" (Armed Proletarian Justice) และกลุ่ม "อารักขาตนเองแห่งชนชั้นปฏิวัติ" (Revolutionary Class Self-Defense) แห่งกรีซ ตามที่มีแถลงการณ์อีกฉบับหนึ่ง

กลุ่มอารักขาตนเองแห่งชนชั้นปฏิวัติได้อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดที่บริษัทเดินรถไฟ เฮลเลนิก เทรน (Hellenic Train) เมื่อเดือนเม.ย. ซึ่งสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อยและไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

กลุ่มเดียวกันนี้ยังได้อ้างว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุโจมตีกระทรวงแรงงานในกรุงเอเธนส์เมื่อปี 2567 ซึ่งไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ด้วยเหตุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่หลังได้รับแจ้งเตือนล่วงหน้า

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า กลุ่มยุติธรรมกรรมาชีพติดอาวุธได้อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุวางระเบิดใกล้กองบัญชาการตำรวจปราบจลาจลของกรีซในย่านกูดี (Goudi) เมื่อปี 2566


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ