ผลสำรวจความคิดเห็นโดยสำนักข่าวเกียวโดซึ่งเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (16 พ.ย.) เผยให้เห็นว่าคะแนนนิยมในคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทาคาอิจิ แห่งญี่ปุ่น ได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 69.9% สูงขึ้น 5.5 จุด เมื่อเทียบกับการสำรวจครั้งแรกที่จัดทำขึ้นไม่นานนักภายหลังจากที่ทาคาอิจิเข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
ผลสำรวจซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างวันเสาร์และวันอาทิตย์ยังได้สะท้อนมุมมองของสาธารณชนในประเด็นความมั่นคง โดย 60.4% สนับสนุนการเพิ่มงบประมาณกลาโหมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการป้องกันประเทศ ขณะที่ 34.7% ไม่เห็นด้วย ในส่วนของประเด็นการใช้สิทธิป้องกันตนเองร่วมกันหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินในไต้หวันนั้น เสียงส่วนใหญ่ 48.8% ให้การสนับสนุน ส่วน 44.2% แสดงความเห็นคัดค้าน
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย. ทาคาอิจิได้แถลงต่อรัฐสภาว่า สถานการณ์ฉุกเฉินในไต้หวันอันมีการใช้กำลังทหารเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น อาจถือได้ว่าเป็น "สถานการณ์อันคุกคามต่อการอยู่รอด" ของญี่ปุ่นภายใต้บทบัญญัติกฎหมายความมั่นคง ซึ่งจะเปิดช่องให้ญี่ปุ่นสามารถใช้สิทธิในการป้องกันตนเองร่วมกันได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อนายกรัฐมนตรีในการจัดการปัญหาเงินทุนอื้อฉาวภายในพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ที่ทาคาอิจิเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ผู้ตอบแบบสำรวจถึง 64.7% แสดงความเห็นว่าทาคาอิจิยังไม่ได้แสดงเจตจำนงที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ขณะที่มีเพียง 27.6% ที่เชื่อมั่นในการดำเนินการของทาคาอิจิ
นอกจากนี้ ในประเด็นปัญหาหมีทำร้ายประชาชนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง ประชาชนส่วนใหญ่ถึง 65.0% มองว่ารัฐบาลทาคาอิจิยังดำเนินการรับมือกับสถานการณ์ได้ล่าช้า
อนึ่ง สำหรับคะแนนความไม่พอใจต่อการทำงานของคณะรัฐมนตรีชุดนี้ อยู่ที่ระดับ 16.5%