ชาวกาซาหลายรายเปิดเผยว่า พวกเขาต้องจ่ายเงินจำนวน 2,000 ดอลลาร์ต่อที่นั่ง หรือราว 65,000 บาท เพื่อให้ครอบครัวสามารถบินไปยังแอฟริกาใต้ในเที่ยวบินพิเศษที่จัดโดยองค์กรหนึ่งซึ่งเสนอ "ทางออก" จากฉนวนกาซา
ทั้งนี้ ชาวกาซา 2 รายให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวรอยเตอร์ โดยบอกว่า พวกเขาเป็นหนึ่งในชาวปาเลสไตน์จำนวน 130 คนที่แอฟริกาใต้อนุญาตให้เข้าประเทศ หลังจากถูกนำตัวออกจากฉนวนกาซาด้วยรถบัส และบินออกจากสนามบินในอิสราเอลเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยพวกเขาเดินทางถึงเมืองโจฮันเนสเบิร์กเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากแวะพักที่กรุงไนโรบี
ชาวปาเลสไตน์ทั้งสองกล่าวว่า พวกเขาพบโฆษณาออนไลน์จากองค์กรชื่อ Al-Majd Europe ซึ่งเสนอโอกาสให้ออกจากกาซา และได้สมัครไปเมื่อราว 6 เดือนก่อน โดยข้อเสนอดังกล่าวเปิดเฉพาะสำหรับครอบครัวชาวปาเลสไตน์ และต้องมีหนังสือเดินทาง
ต่อมาพวกเขาได้รับข้อความจาก Al-Majd Europe ผ่าน WhatsApp แจ้งว่า พวกเขาได้รับการอนุมัติแล้ว จากนั้นก็เดินทางออกจากกาซาด้วยรถบัส ผ่านด่าน Kerem Shalom ซึ่งอิสราเอลควบคุม และบินออกจากสนามบิน Ramon ก่อนเดินทางถึงแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน
นายรัมซี อาบู ยูซุฟ วัย 42 ปี กล่าวทางโทรศัพท์จากโจฮันเนสเบิร์กว่า "ผมเป็นผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จะต้องรออีกนานแค่ไหนกว่าจะได้อพยพออกมา ผมต้องออกมาเพื่อรับการรักษาและให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น"
ส่วนชาวปาเลสไตน์คนที่ 2 ซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อเพราะกังวลด้านความปลอดภัย กล่าวว่า ครอบครัวของเขาตัดสินใจออกจากกาซาด้วยความจำใจ หลังจากเผชิญการโจมตีจากอิสราเอลนานหลายเดือน โดยเขาเดินทางกับภรรยาและลูก 2 คน อายุ 4 ปีและ 2 ปี
กลุ่มชาวปาเลสไตน์เดินทางมาถึงสนามบินโจฮันเนสเบิร์กด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำของ Global Airways จากเคนยา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองระบุว่า พวกเขาไม่มีตราประทับออกนอกประเทศ ไม่มีตั๋วเดินทางกลับ และไม่มีข้อมูลที่พัก
นายอาบู ยูซุฟกล่าวว่า พวกเขาได้รับวีซ่า 90 วัน โดยบางส่วนพักในโรงแรมขนาดเล็ก และบางส่วนรวมถึงตัวเขาพักกับชุมชนชาวมุสลิมในโจฮันเนสเบิร์ก ขณะที่ผู้โดยสาร 23 คนในเที่ยวบินดังกล่าวได้เดินทางต่อไปยังจุดหมายอื่น ๆ
นายโรนัลด์ ลาโมลา รัฐมนตรีต่างประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งรัฐบาลของเขาให้การสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ และได้กล่าวหาอิสราเอลว่าก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสงครามกาซา กล่าวว่า ทางการกำลังสอบสวน "สถานการณ์อันน่าสงสัย" ของเที่ยวบินลำนี้ และกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ดูเหมือนสะท้อนวาระที่กว้างกว่านั้น คือความพยายามทำให้ชาวปาเลสไตน์ต้องออกจากปาเลสไตน์
ด้านโฆษกรัฐบาลอิสราเอลกล่าวว่า นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เคยระบุอย่างชัดเจนว่า "ถ้าชาวปาเลสไตน์ต้องการออกจากฉนวนกาซา พวกเขาควรได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้นได้ และหากต้องการกลับมา ก็ต้องได้รับอนุญาตให้กลับมาเช่นกัน"
อย่างไรก็ดี โฆษกไม่ได้ตอบโดยตรงว่า ชาวปาเลสไตน์ชุดนี้ออกเดินทางไปยังแอฟริกาใต้ได้อย่างไร
ส่วน COGAT ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านกิจการพลเรือนในฉนวนกาซาของกองทัพอิสราเอล ระบุว่า ชาวกาซาเหล่านี้ออกเดินทางหลังจากได้รับการอนุมัติจากประเทศที่สามให้รับตัวพวกเขา และพวกเขามีวีซ่าถูกต้อง
ทั้งนี้ อิสราเอลได้ผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางออกจากกาซาในเดือนพฤษภาคม โดยมีชาวปาเลสไตน์ราว 1,000 คนถูกนำตัวออกจากกาซาด้วยรถบัสเพื่อขึ้นเครื่องบินไปยังยุโรปและที่อื่น ๆ