เกาหลีเหนือเปิดเผยในวันนี้ (18 พ.ย.) ว่า การที่สหรัฐฯ อนุมัติแผนของเกาหลีใต้ในการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์อย่างเป็นทางการนั้น จะนำไปสู่ปรากฏการณ์ "โดมิโนนิวเคลียร์" ในภูมิภาค พร้อมประณามความเคลื่อนไหวดังกล่าว
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้น หลังเกาหลีใต้และสหรัฐฯ เปิดเผยเอกสารร่วมกันเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ว่า สหรัฐฯ อนุมัติแผนของเกาหลีใต้ในการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์อย่างเป็นทางการ พร้อมสนับสนุนกระบวนการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมและแปรสภาพเชื้อเพลิงใช้แล้วเพื่อวัตถุประสงค์สันติ
เอกสารฉบับนี้สรุปผลการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ผู้นำเกาหลีใต้ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โดยระบุว่า สหรัฐฯ จะร่วมมือใกล้ชิดกับเกาหลีใต้ทั้งด้านจัดหาแหล่งเชื้อเพลิงและข้อกำหนดอื่น ๆ สำหรับโครงการเรือดำน้ำ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังให้คำมั่นที่จะเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงเพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ โดยสหรัฐฯ ยืนยันความมุ่งมั่นในการปกป้องเกาหลีใต้ด้วย
ด้านสำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ได้เผยแพร่รายงานข่าวตอบโต้ความร่วมมือข้างต้นว่า เกาหลีเหนือขอประณามการที่สหรัฐฯ อนุมัติความพยายามในการสร้างเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของเกาหลีใต้ว่าเป็น "ความเคลื่อนไหวที่ร้ายแรง" ซึ่งบ่อนทำลายสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และก่อให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมนิวเคลียร์ได้ในระดับโลก
KCNA ระบุว่า "การที่สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) จะมีเรือดำน้ำนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง ถือเป็นยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวเพื่อติดอาวุธนิวเคลียร์ให้ตนเองและสิ่งนี้จะก่อให้เกิดปรากฏการณ์โดมิโนนิวเคลียร์ในภูมิภาคอย่างแน่นอน และจุดชนวนการแข่งขันทางอาวุธที่ร้อนแรง" ทั้งยังเป็นการปูทางให้เกาหลีใต้พัฒนาเป็น "รัฐกึ่งอาวุธนิวเคลียร์"
นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังวิพากษ์วิจารณ์การที่สหรัฐฯ แสดงความมุ่งมั่นร่วมกับเกาหลีใต้ที่จะบรรลุการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือโดยสมบูรณ์ โดยยืนกรานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการแสดงออกที่ชัดเจนที่สุดของนโยบายรัฐบาลทรัมป์ต่อเกาหลีเหนือ