แลร์รี ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันจันทร์ (17 พ.ย.) ว่า เขาจะ "ยุติบทบาทสาธารณะ" ภายหลังมีการเปิดเผยเอกสารอีเมลที่พิสูจน์ว่าซัมเมอร์สยังคงติดต่อกับเจฟฟรีย์ เอปสตีน นักการเงินผู้ล่วงลับซึ่งพัวพันคดีค้าประเวณีผู้เยาว์
สื่อสหรัฐฯ อ้างคำกล่าวของซัมเมอร์ส ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งอธิการบดีกิตติคุณและศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยระบุในแถลงการณ์ว่า "ผมรู้สึกละอายใจอย่างยิ่งต่อการกระทำของผม และตระหนักดีถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น"
ซัมเมอร์สกล่าวว่า "ผมขอรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจที่ผิดพลาดในการติดต่อกับนายเอปสตีนต่อไป" พร้อมเสริมว่า "แม้จะยังคงปฏิบัติหน้าที่การสอน แต่ผมจะยุติบทบาทสาธารณะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามโดยรวมเพื่อสร้างความไว้วางใจและฟื้นฟูความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันต่างเรียกร้องให้องค์กรต่าง ๆ ยุติความเกี่ยวข้องกับซัมเมอร์ส หลังจากคณะกรรมาธิการกำกับดูแลของสภาผู้แทนราษฎรได้เปิดเผยการติดต่อทางอีเมลระหว่างเอปสตีนกับซัมเมอร์ส ซึ่งย้อนไปตั้งแต่ปี 2556 ถึง 2562
เรื่องนี้เริ่มต้นจากเมื่อวันพุธที่แล้ว (12 พ.ย.) ที่ฝ่ายเดโมแครตในคณะกรรมาธิการฯ ได้ปล่อยเอกสารเชื่อมโยงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ากับคดีเอปสตีน จากนั้นฝ่ายรีพับลิกันจึงตอบโต้ด้วยการปล่อยเอกสารชุดใหญ่กว่า พร้อมกล่าวหาว่าเดโมแครตจงใจเลือกเปิดโปงเฉพาะข้อมูลที่เข้าทางตัวเอง
ฝ่ายรีพับลิกันหลายคนยืนยันว่าปธน.ทรัมป์ไม่มีความผิด และกล่าวหาว่าเดโมแครตจงใจใช้คดีเอปสตีนมาเป็นเครื่องมือเบี่ยงเบนความสนใจของสังคม จากภาวะที่หน่วยงานรัฐบาลกลางต้องปิดทำการ (government shutdown) ซึ่งยืดเยื้อนานเป็นประวัติการณ์ถึง 43 วัน และเพิ่งสิ้นสุดลง
เพื่อเป็นการแก้เกมทางการเมือง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 พ.ย.) ปธน.ทรัมป์ได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรมเปิดการสอบสวนบุคคลระดับสูงของพรรคเดโมแครตที่มีความเกี่ยวข้องกับเอปสตีนทันที ซึ่งรวมถึงอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน, ซัมเมอร์ส และรีด ฮอฟฟ์แมน ผู้ร่วมก่อตั้งลิงด์อิน (LinkedIn) และเป็นผู้บริจาครายใหญ่ของพรรค
สื่อในสหรัฐฯ วิเคราะห์ว่า คำสั่งของทรัมป์คือความพยายามที่จะลดทอนผลกระทบจากเอกสารที่ฝ่ายเดโมแครตนำมาโจมตีตนเองก่อนหน้านี้