จีนเตือนพลเมืองของตนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปญี่ปุ่น โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดทางการทูตระลอกล่าสุดระหว่างสองประเทศ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลอาชญากรรมเมื่อวันศุกร์ (21 พ.ย.) เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นระบุว่าระหว่างเดือนม.ค.ต.ค. ปีนี้ มีคดีฆาตกรรม 7 คดี การปล้น 21 คดี และไม่มีคดีลอบวางเพลิงที่เกี่ยวข้องกับพลเมืองจีน ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วมีคดีฆาตกรรม 14 คดี การปล้น 18 คดี และคดีลอบวางเพลิง 3 คดี ตัวเลขดังกล่าวรวมถึงกรณีที่ผู้กระทำผิดเป็นชาวจีนด้วย
สำหรับทั้งปี 2566 เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นพบคดีฆาตกรรม 15 คดี การปล้น 31 คดี และคดีลอบวางเพลิง 2 คดี
กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นชี้ว่า การประกาศของจีนทำให้ดูเหมือนว่าปีนี้มีคดีอาชญากรรมต่อพลเมืองจีนในญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของชาวจีน แต่ข้อกล่าวหานั้นไม่ถูกต้อง
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. กระทรวงการต่างประเทศจีนออกคำเตือนพลเมืองในการเดินทางไปญี่ปุ่น โดยอ้างว่าญี่ปุ่นมีความปลอดภัยน้อยลงในปีนี้และอาชญากรรมต่อพลเมืองจีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก
จีนยังระบุว่า คำกล่าวยั่วยุของผู้นำญี่ปุ่นเกี่ยวกับไต้หวัน ส่งผลให้บรรยากาศการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศเลวร้ายลง และสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยต่อชาวจีนในญี่ปุ่น
ก่อนหน้านี้ ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวในรัฐสภาเมื่อต้นเดือนนี้ว่า หากเกิดเหตุฉุกเฉินที่ไต้หวัน ญี่ปุ่นอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิในการป้องกันตนเองร่วมกับพันธมิตร โดยไต้หวันเป็นเกาะที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย และจีนมองว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน