กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์แถลงเมื่อวันอังคาร (25 พ.ย.) ว่าได้สั่งให้ติ๊กต๊อก (TikTok) และเมตา (Meta) ระงับบัญชีของซุลฟิการ์ บิน โมฮัมหมัด ชาริฟ ชายชาวออสเตรเลีย โดยระบุว่าเขามีส่วนปลูกฝังแนวคิดหัวรุนแรงให้พลเมืองสิงคโปร์ 2 ราย ด้วยการเรียกร้องให้ชาวมุสลิมปฏิเสธรัฐประชาธิปไตยเพื่อหันไปตั้งรัฐอิสลามภายใต้กฎหมายชารีอะห์ และสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
ซุลฟิการ์เคยถูกควบคุมตัวเมื่อปี 2559 ตามกฎหมายความมั่นคงภายในของสิงคโปร์ ข้อหาส่งเสริมการก่อการร้ายและยกย่องกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) บนโลกออนไลน์
กฎหมายดังกล่าวให้อำนาจเจ้าหน้าที่คุมขังผู้ต้องสงสัยได้ยาวนานโดยไม่ต้องขึ้นศาล หรือออกคำสั่งจำกัดสิทธิ เช่น จำกัดการเดินทางและการใช้อินเทอร์เน็ต
ทางการระบุว่า ซุลฟิการ์ "ยังพยายามปลุกปั่นให้ชุมชนมุสลิมเชื้อสายมาเลย์ในท้องถิ่น ไม่พอใจชุมชนชาวจีนในสิงคโปร์อย่างต่อเนื่อง"
เจ้าหน้าที่ยกตัวอย่างคลิปในติ๊กต๊อกเมื่อเดือนมิ.ย. ซึ่งซุลฟิการ์กล่าวหาว่า ชาวมาเลย์และชาวมุสลิมถูกบีบให้ละทิ้งศาสนาอิสลามและถูกกลืนชาติเข้ากับชุมชนชาวจีน
ซุลฟิการ์ซึ่งสละสัญชาติสิงคโปร์ไปเมื่อปี 2563 ยังถูกกล่าวหาว่าพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งของสิงคโปร์ในปีนี้ด้วย
ทั้งนี้ สิงคโปร์เป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายทางศาสนา มีประชากรเชื้อสายจีน 74% มาเลย์ 13.6% อินเดีย 9% และกลุ่มอื่น ๆ 3.3%
กระทรวงฯ ระบุว่า "รัฐบาลสิงคโปร์ถือว่าภัยคุกคามความปรองดองทางเชื้อชาติและศาสนาเป็นเรื่องร้ายแรง แม้จะมาจากชาวต่างชาติ และจะไม่ลังเลที่จะจัดการกับบุคคลเหล่านั้น"
อนึ่ง รัฐบาลออกคำสั่งไปยังติ๊กต๊อกและเมตาตามอำนาจกฎหมายว่าด้วยภัยอาชญากรรมออนไลน์ (Online Criminal Harms Act) ที่เริ่มบังคับใช้เมื่อเดือนก.พ. 2567