ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศกลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (2 ธ.ค.) ขู่ใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีประเทศที่ลักลอบขนยาเสพติดเข้าสหรัฐฯ โดยระบุว่าอาจยกระดับถึงขั้นโจมตีภาคพื้นดิน
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ใครที่ทำแบบนั้นและขนยาเข้ามาขายในประเทศเรา จะต้องถูกโจมตี" พร้อมระบุเจาะจงถึงโคลอมเบียว่า "ผมได้ยินว่าโคลอมเบียกำลังผลิตโคเคน เขามีโรงงานผลิต แล้วก็ส่งมาขายให้เรา" โดยย้ำว่ามาตรการนี้จะครอบคลุมทุกประเทศที่ขนยาเสพติดเข้าสหรัฐฯ ไม่ใช่เพียงแค่เวเนซุเอลาเท่านั้น
คำประกาศดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แก่ กุสตาโว เปโตร ประธานาธิบดีโคลอมเบีย ซึ่งถูกรัฐบาลทรัมป์คว่ำบาตรอยู่แล้ว โดยเปโตรได้โพสต์ข้อความตอบโต้ผ่านเอ็กซ์ว่า โคลอมเบียสามารถทำลายห้องแล็บผลิตยาเสพติดได้ทุก 40 นาที "โดยไม่ต้องใช้ขีปนาวุธ" พร้อมทั้งท้าให้ทรัมป์มาร่วมปราบปรามยาเสพติด แต่ก็ได้เตือนทิ้งท้ายด้วยท่าทีขึงขัง
"อย่าคุกคามอธิปไตยของเรา ไม่เช่นนั้นเท่ากับปลุกเสือจากัวร์ให้ตื่น" เปโตรระบุ "การโจมตีอธิปไตยของเรา คือการประกาศสงคราม"
สถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคนี้ทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง โดยช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทรัมป์ได้สั่งยิงขีปนาวุธทำลายเรือต้องสงสัยขนยาเสพติดในทะเลแคริบเบียนและแปซิฟิก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายสิบราย อีกทั้งยังมีการเสริมกำลังทหารสหรัฐฯ ในทะเลแคริบเบียน ท่ามกลางความขัดแย้งกับ นิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา เพื่อนบ้านของโคลอมเบีย ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหาว่าเป็นตัวการสำคัญในการขนยาเสพติด และทรัมป์ได้ส่งสัญญาณว่าอาจใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงเวเนซุเอลาในเร็ว ๆ นี้