สื่อทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เปิดฉากหารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่กรุงปักกิ่งในวันนี้ (4 ธ.ค.) โดยคาดว่าผู้นำทั้งสองจะหยิบยกประเด็นไต้หวันและแนวทางสร้างสันติภาพในสงครามรัสเซีย-ยูเครนมาหารือเป็นหลัก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สำหรับการเยือนจีนอย่างเป็นทางการครั้งที่ 4 ของปธน.มาครงในรอบนี้ เขาได้นำคณะนักธุรกิจชั้นนำด้านพลังงานและการบิน รวมถึงบริจิตต์ ภริยาร่วมเดินทางมาด้วย
มีรายงานว่าปธน.มาครงกำลังพิจารณาเชิญปธน.สีไปร่วมประชุมสุดยอดกลุ่ม G7 ในปีหน้าที่ฝรั่งเศสจะเป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองยังมีกำหนดเดินทางไปเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน เพื่อเยี่ยมแพนด้ายักษ์คู่ที่เพิ่งส่งกลับจากฝรั่งเศสเมื่อเดือนก่อนหลังไปพำนักนาน 13 ปี
การพบปะครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สถานการณ์ในภูมิภาคตึงเครียด เนื่องจากจีนกำลังมีข้อพิพาทรุนแรงกับญี่ปุ่น สืบเนื่องจากคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ เมื่อเดือนพ.ย. ที่ระบุว่าญี่ปุ่นอาจตอบโต้หากไต้หวันถูกโจมตี ซึ่งจีนมองว่าไต้หวันเป็นดินแดนของตนและถือเป็นกิจการภายใน จึงไม่ยอมให้ชาติสมาชิก G7 เข้ามาแทรกแซงหรือเปลี่ยนสถานะเดิมของช่องแคบไต้หวัน โดยก่อนหน้านี้ ปธน.สีก็เพิ่งย้ำจุดยืนนี้ระหว่างคุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ
ทางด้านความเคลื่อนไหวทางการทูต เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) หวัง อี้ นักการทูตระดับสูงของจีน ได้หารือกับ ฌ็อง-นอแอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส โดยย้ำว่าจีนพร้อมร่วมมือกับฝรั่งเศสเพื่อกระชับความสัมพันธ์พหุภาคี แต่ก็ได้เตือนถึง "อันตรายร้ายแรง" จาก "คำพูดผิด ๆ" ของผู้นำญี่ปุ่น
หวัง อี้ ระบุว่า หวังจะให้ฝรั่งเศสเข้าใจและสนับสนุน "จุดยืนที่ชอบธรรม" ของจีนต่อไป พร้อมกล่าวเสริมว่า จีนและฝรั่งเศส "ต้องไม่ปล่อยให้" ญี่ปุ่น "ใช้เรื่องไต้หวันมาปั่นป่วนและทำผิดซ้ำรอยประวัติศาสตร์"