พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงในวันนี้ (11 ธ.ค.) ว่า มีพลเรือนชาวกัมพูชาเสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย และบาดเจ็บอีก 60 ราย จากเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนรอบล่าสุด
"พลเรือนที่เสียชีวิตมีจำนวน 10 ราย ซึ่งรวมถึงเด็กทารก 1 คน และพลเรือนได้รับบาดเจ็บ 60 คน" มาลีกล่าวในระหว่างการแถลงข่าว
โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังกล่าวด้วยว่า ความขัดแย้งบริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทยปะทุขึ้นตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7 ธ.ค.) และยังคงดำเนินต่อเนื่องจนถึงเช้าวันนี้ พร้อมกับเสริมว่า กองทัพไทยยิงปืนใหญ่เข้าใส่หลายพื้นที่ในเขตแดนกัมพูชา
ก่อนหน้านี้ กระทรวงมหาดไทยกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์เมื่อคืนวันพุธว่า พลเรือนประมาณ 190,000 คนจาก 56,000 ครอบครัว ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปยังศูนย์พักพิงที่ปลอดภัย
ขณะที่วันนี้ พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหมของไทย แถลงข่าวในฐานะศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ฝ่ายกัมพูชาได้โจมตีด้วยอาวุธ BM21 โดรนพลีชีพ และปืนครกเข้ามายังพื้นที่ช่องบก ช่องอานม้า และเนิน 667 ขณะที่ปฏิบัติการของทุกเหล่าทัพของไทยยังเป็นไปตามแผนอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดระยะเวลาที่ปฏิบัติการทางทหารตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีกำลังพลเสียชีวิตแล้ว 9 นาย และได้รับบาดเจ็บราว 120 ราย
ขณะเดียวกัน การโจมตีของกัมพูชายังส่งผลให้ประชาชนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนมาอยู่ในศูนย์พักพิง 849 จุด จำนวน 199,618 คน และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย โรงพยาบาลได้รับผลกระทบ 19 แห่ง รพ.สต.ได้รับผลกระทบ 180 แห่ง
"ขอประณามการกระทำของกัมพูชาที่ใช้อาวุธหนักโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเป้าหมายของประชาชน" พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าว