หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ (FT) รายงานว่า สหรัฐฯ สั่งระงับข้อตกลงด้านเทคโนโลยีที่ทำไว้กับอังกฤษในช่วงต้นปี ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ควอนตัมคอมพิวติ้ง และพลังงานนิวเคลียร์พลเรือน
รายงานข่าวระบุว่า สหรัฐฯ ระงับข้อตกลงดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากฝั่งสหรัฐฯ เริ่มรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นกับการที่สหราชอาณาจักรแสดงท่าทีไม่เต็มใจที่จะจัดการกับอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี ซึ่งรวมถึงกฎระเบียบต่างๆ ที่ใช้ควบคุมสินค้าอาหารและสินค้าอุตสาหกรรม โดยการระงับข้อตกลงครั้งนี้ก็เพื่อกดดันให้สหราชอาณาจักรต้องให้ความยินยอมในการค้าด้านอื่น ๆ นอกเหนือจากความร่วมมือด้านเทคโนโลยี
ทั้งนี้ อังกฤษและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีมูลค่า 3.1 หมื่นล้านปอนด์ (4.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเดือนก.ย. ที่ผ่านมา เพื่อเสริมศักยภาพด้านปัญญาประดิษฐ์ ควอนตัมคอมพิวติ้ง และพลังงานนิวเคลียร์พลเรือน
ข้อตกลงดังกล่าวมีชื่อว่า "Tech Prosperity Deal" เกิดขึ้นระหว่างการเยือนอังกฤษครั้งที่สองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยมุ่งเน้นการร่วมพัฒนาโมเดล AI สำหรับการแพทย์ ขยายขีดความสามารถด้านควอนตัมคอมพิวติ้ง และสนับสนุนโครงการนิวเคลียร์พลเรือน พร้อมส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และความมั่นคงด้านพลังงานของทั้งสองประเทศ