อัยการญี่ปุ่นเสนอจำคุกตลอดชีวิตมือสังหาร "อาเบะ" ปมแค้นลัทธิมูนทำครอบครัวล่มสลาย

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 18, 2025 16:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พนักงานอัยการเสนอศาลให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต เท็ตสึยะ ยามางามิ จำเลยในคดีลอบยิงอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ จนถึงแก่ชีวิตเมื่อปี 2565 โดยคดีสะเทือนขวัญนี้ส่งผลให้สังคมหันมาขุดคุ้ยเรื่องราวเกี่ยวกับ "ลัทธิมูน" (Unification Church) และความสัมพันธ์อันน่าสงสัยระหว่างลัทธิดังกล่าวกับเหล่านักการเมืองญี่ปุ่น

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในชั้นศาลจังหวัดนาระ ยามางามิยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้สังหารอาเบะจริง โดยระบุว่าตนแค้นเคืองลัทธิมูนอย่างมาก เพราะมารดาบริจาคเงินให้กลุ่มศาสนานี้จนครอบครัวต้องสิ้นเนื้อประดาตัว โดยศาลนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 21 ม.ค. 2569

"ไม่มีเหตุผลใดที่ต้องปรานี" อัยการกล่าวในแถลงการณ์ปิดคดีเพื่อคัดค้านการลดหย่อนโทษให้แก่จำเลยวัย 45 ปี ซึ่งก่อเหตุใช้ปืนประดิษฐ์เองยิงอาเบะจนถึงแก่ชีวิต ขณะอดีตนายกรัฐมนตรีกำลังกล่าวปราศรัยหาเสียงที่เมืองนาระ ทางตะวันตกของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2565

ฝ่ายอัยการชี้ว่า แม้ปูมหลังชีวิตของยามางามิจะน่าเห็นใจอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุแต่อย่างใด เนื่องจากเขาบรรลุนิติภาวะและสามารถ "แยกแยะผิดชอบชั่วดี" ได้แล้ว

ในการพิจารณาคดีโดยใช้ระบบลูกขุนภาคประชาชน (Lay Judge System) ยามางามิเผยว่า เดิมทีเขาตั้งเป้าสังหารฮัน ฮัก จา ผู้นำลัทธิมูน แต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ทำให้ฮันเดินทางมาญี่ปุ่นลำบาก เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่อาเบะแทน เพราะเห็นว่าอาเบะส่งวิดีโอไปร่วมงานที่จัดโดยกลุ่มเครือข่ายของลัทธิ

ทางด้านโจทก์ระบุว่า การเปลี่ยนเป้าหมายมาสังหารอาเบะนั้นเป็น "ตรรกะที่ไร้เหตุผลรองรับ" อีกทั้งการกระทำของเขายังเป็นการ "มองเพียงด้านเดียวและแสดงออกถึงความไม่แยแสต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์อย่างชัดแจ้ง"

ด้านทนายจำเลยโต้แย้งว่า ลูกความแค้นลัทธินี้เพราะมารดาบริจาคเงินไปถึง 100 ล้านเยน (640,000 ดอลลาร์สหรัฐ) จนครอบครัวล้มละลาย ซึ่งศาลควรพิจารณาปัจจัยนี้เพื่อบรรเทาโทษ

ระหว่างการพิจารณาคดีมีการเปิดเผยว่า มารดาของยามางามิเข้าเป็นสาวกลัทธิมูนในปี 2534 หลังจากสามีฆ่าตัวตายในปี 2527 ต่อมาตัวจำเลยเองก็พยายามฆ่าตัวตายในปี 2548 ส่วนพี่ชายที่โกรธแค้นเรื่องการบริจาคเงินของแม่ก็ได้จบชีวิตตนเองในปี 2558

ก่อนที่อัยการจะแถลงปิดคดี ทนายความผู้แทนของอากิเอะ อาเบะ ภริยาม่ายของอาเบะ ได้อ่านคำแถลงในนามของเธอซึ่งระบุว่า "การจากไปอย่างกะทันหันของสามีสร้างความตกใจจนดิฉันทำอะไรไม่ถูก"

"ดิฉันรู้สึกราวกับตกอยู่ในความฝันมานานแสนนาน จึงขอให้จำเลยชดใช้ความผิดที่เขาก่อขึ้นอย่างสาสม" ทั้งนี้ อากิเอะไม่ได้เดินทางมาปรากฏตัวที่ศาลในวันนี้

ยามางามิเชื่อว่า อาเบะ (อายุ 67 ปีขณะเกิดเหตุ) คือ "ศูนย์กลางความเชื่อมโยงทางการเมืองของลัทธิมูน" ในญี่ปุ่น เนื่องจากอาเบะยังเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองอย่างมากแม้จะก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปในปี 2563 แล้วก็ตาม

หลังจากแรงจูงใจของยามางามิถูกเปิดเผย สังคมเริ่มตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) กับลัทธิมูนอย่างหนัก โดยมีรายงานว่านักการเมืองบางรายได้รับการสนับสนุนจากลัทธิระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง

ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นได้ออกกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมวิธีการระดมทุนที่เน้นการล่อลวงหรือปั่นหัวสมาชิก และสังคมยังหันมาให้ความสนใจต่อความทุกข์ยากของบุตรหลานสาวกลัทธิมูน หรือที่เรียกว่า "สาวกรุ่นที่สอง" มากยิ่งขึ้นด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ