แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวแสดงความเสียใจต่อชุมชนชาวยิว หลังเกิดเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ที่หาดบอนได นครซิดนีย์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย
อัลบาเนซีแถลงต่อสื่อมวลชนวันนี้ (22 ธ.ค.) ว่า "ผมรู้สึกถึงความรับผิดชอบต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ... ผมขอโทษต่อชุมชนยิวและประชาชนออสเตรเลียทุกคนที่ได้รับผลกระทบ"
ถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังอัลบาเนซีถูกวิจารณ์อย่างหนักจากผู้นำชุมชนชาวยิวและพรรคฝ่ายค้าน ว่ารัฐบาลล้มเหลวในการรับมือกับแนวคิดการต่อต้านชาวยิวที่เพิ่มขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อัลบาเนซีถูกผู้ร่วมงานโห่แสดงความไม่พอใจ ขณะเข้าร่วมพิธีรำลึกครบหนึ่งสัปดาห์หลังเหตุการณ์
ขณะเดียวกัน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของนครซิดนีย์ ได้เรียกประชุมรัฐสภาอย่างเร่งด่วนในสัปดาห์นี้ เพื่อปรับกฎหมายครอบครองอาวุธปืนให้เข้มงวดมากขึ้น
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อัลบาเนซีได้ประกาศโครงการรับซื้ออาวุธปืนคืน โดยรัฐบาลกลางจะเปิดโครงการรับซื้ออาวุธปืนคืนทั่วประเทศ และทำลายอาวุธปืนส่วนเกิน ตลอดจนอาวุธปืนที่เพิ่งถูกสั่งแบน และอาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย โครงการดังกล่าวจะมีรูปแบบคล้ายกับโครงการรับซื้ออาวุธปืนคืนที่เคยดำเนินการก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งเกิดเหตุกราดยิงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 35 รายที่พอร์ตอาร์เทอร์ รัฐแทสเมเนีย ในปี 2539
สำหรับเหตุกราดยิงที่หาดบอนไดซึ่งคร่าชีวิตผู้เคราะห์ร้าย 15 รายนั้น ถือเป็นเหตุกราดยิงที่ร้ายแรงที่สุดของออสเตรเลียนับตั้งแต่ พ.ศ. 2539 และผลสอบสวนเบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุได้รับอิทธิพลจากอุดมการณ์กลุ่มรัฐอิสลาม (IS)
ส่วนความคืบหน้าทางคดี มือปืนรายหนึ่งถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมในที่เกิดเหตุ ส่วนอีกรายคือ นาวีด อัคราม วัย 24 ปี ถูกแจ้งข้อหาหนักถึง 59 กระทง ในจำนวนนี้รวมถึงข้อหาฆาตกรรม 15 กระทง และข้อหาก่อการร้ายอีก 1 กระทง