กองกำลังรัสเซียเปิดฉากโจมตีท่าเรือออแดซาของยูเครนริมฝั่งทะเลดำอีกครั้งเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา (22 ธ.ค.) สร้างความเสียหายแก่ท่าเรือและเรือหนึ่งลำ นับเป็นการโจมตีพื้นที่นี้เป็นครั้งที่สองในรอบไม่ถึง 24 ชั่วโมง โดยโอเลห์ คีเพอร์ ผู้ว่าการแคว้นออแดซา ระบุว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งจัดการพื้นที่หลังการโจมตี แต่เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากเหตุการณ์ล่าสุดนี้
การโจมตีระลอกนี้มีขึ้นต่อเนื่องจากช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา ซึ่งรัสเซียได้ถล่มโครงสร้างพื้นฐานพลังงานจนเกิดเพลิงไหม้ใหญ่ที่ท่าเรือหลัก และทำให้ประชาชนกว่า 120,000 รายไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยมีรายงานผู้บาดเจ็บ 1 ราย
ทั้งนี้ ท่าเรือริมทะเลดำถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญต่อความอยู่รอดทางเศรษฐกิจของยูเครน นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานเมื่อเดือนก.พ. 2565 เนื่องจากเป็นช่องทางหลักในการส่งออกสินค้า
โอเลกซี คูเลบา รองนายกรัฐมนตรียูเครน ระบุผ่านเทเลแกรมว่า "รัสเซียจงใจโจมตีโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือและพลังงานอย่างเป็นระบบเพื่อหวังทำลายระบบขนส่งทางทะเล โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งท่าเรือและโรงไฟฟ้าตกเป็นเป้าหมายอีกครั้ง"
คูเลบากล่าวเสริมว่า แรงระเบิดทำให้ไฟไหม้ท่าเรือปิวเดนนี (Pivdennyi) เผาตู้คอนเทนเนอร์บรรจุแป้งและน้ำมันพืชประมาณ 30 ตู้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ท่าเรือและหน่วยกู้ภัยกำลังเร่งควบคุมเพลิงอย่างสุดความสามารถ
เจ้าหน้าที่ยูเครนตั้งข้อสังเกตว่า รัสเซียโหมโจมตีออแดซาหนักขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อหวังตัดขาดทางออกสู่ทะเลดำและขัดขวางเส้นทางขนส่งสำคัญที่เชื่อมต่อไปยังพรมแดนประเทศมอลโดวา
ขณะเดียวกัน ยูเครนก็ได้ตอบโต้ด้วยการโจมตีระบบขนส่งทางทะเลของรัสเซียเช่นกัน โดยเฉพาะการมุ่งเป้าไปที่กองเรือเงา (shadow fleet) ซึ่งเป็นกองเรือบรรทุกน้ำมันที่รัสเซียใช้หลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร