ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดเผยในวันจันทร์ (29 ธ.ค.) ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เพื่อพูดคุยถึงความคืบหน้าในการเจรจาครั้งล่าสุดระหว่างสหรัฐฯ กับยูเครน
อูชาคอฟเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า "ประธานาธิบดีทรัมป์และคณะที่ปรึกษาคนสำคัญได้เข้าร่วมการสนทนาทางโทรศัพท์ โดยมีการสรุปข้อมูลอย่างละเอียดและครอบคลุมเกี่ยวกับผลลัพธ์หลัก ๆ ของการเจรจากับคณะผู้แทนยูเครนที่จัดขึ้นเมื่อวันก่อน ณ คฤหาสน์มาร์-อะ-ลาโก"
อูชาคอฟกล่าวเพิ่มเติมว่า ทรัมป์ได้แจ้งปูตินว่า เขาแนะนำเซเลนสกีไม่ให้พยายามขอพักรบ แต่ให้มุ่งเน้นไปที่การบรรลุข้อตกลงที่ครอบคลุมและมีผลผูกพัน ส่วนทางด้านปูตินเน้นย้ำว่า รัสเซียตั้งใจที่จะสานต่อความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและสร้างสรรค์กับพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ ต่อไป เพื่อแสวงหาแนวทางสู่การบรรลุสันติภาพ
อูชาคอฟยังเปิดเผยอีกว่า ทรัมป์รู้สึกตกใจและโกรธเคืองกับรายงานข่าวที่ว่า ยูเครนได้ส่งโดรนโจมตีที่พักของประธานาธิบดีรัสเซียในแคว้นนอฟโกรอด โดยระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ "ไม่เคยคิดมาก่อนว่า ยูเครนจะกระทำการโดยไม่ยั้งคิดเช่นนี้"
ทั้งนี้ อูชาคอฟสรุปว่า ในปี 2568 ปูตินได้ติดต่อกับตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐฯ 17 ครั้ง ซึ่งรวมถึงการสนทนาทางโทรศัพท์กับทรัมป์ 10 ครั้ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ได้ยืนยันการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับปูตินเช่นกัน ซึ่งเป็นการสนทนาครั้งที่สองระหว่างประธานาธิบดีทั้งสองในรอบสองวันที่ผ่านมา
"การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับประธานาธิบดีปูตินในประเด็นเกี่ยวกับยูเครนลุล่วงไปด้วยดี" แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวโพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม