เมื่อวานนี้ นายมูฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน เข้าพบกับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจาก 6 ประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจรจาที่กรุงเตห์รานว่าด้วยเรื่องโครงการนิวเคลียร์ก่อนที่จะเข้าพบกับนายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐเป็นการส่วนตัว
การประชุมระหว่างนายจอห์น แคร์รี่ และนายมูฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ ถือเป็นการพบปะกันโดยตรงของตัวแทนระดับสูงสุดของสหรัฐ และอิหร่านในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจากทั้ง 6 ประเทศ ซึ่งได้แก่ อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย และสหรัฐ มีทัศนคตืที่ดีจากการประชุมที่เตห์ราน และพวกเขาได้กำหนดวันสำหรับการเจรจาครั้งใหม่ คือ วันที่ 15-16 ตุลาคม ที่กรุงเจนีวา
นายจอห์น แคร์รี่ ให้สัมภาษณ์หลังจากการหารือกับนายมูฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ ว่า การประชุมมีความ "คืบหน้าขึ้น" และเขารู้สึกพึงพอใจกับความคิดเห็นของนายมูฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ ซึ่งมี "ลักษณะการพูด และวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกับที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องในอนาคตมาก"
นายจอห์น แคร์รี่ยังกล่าวอีกว่า "การพูดคุยหนึ่งครั้งและการเปลี่ยนโทนของการพูด เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม แต่ก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ทั้งหมด เกี่ยวกับเรื่องนี้ ยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก"
นายมูฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ กล่าวว่า การประชุมมีความคืบหน้า "เราหวังว่าจะสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะมั่นใจว่าจะไม่มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และเป็นไปอย่างราบรื่น"
รมว.ต่างประเทศอิหร่านยังเสริมว่า เขารู้สึกพอใจกับความก้าวหน้าในการหารือครั้งแรกนี้ และหวังว่าจะมีการดำเนินงานอย่างเป็นรูปเป็นร่าง โดยกล่าวว่า "ตอนนี้เราคงต้องรอดูว่าเราจะสามารถทำให้คำพูดของทั้งสองฝ่ายเป็นความจริง เพื่อที่จะได้เดินหน้าต่อไปได้หรือไม่"
นายซารีฟ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากนายฮัสซาน รูฮานี ประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่าน ให้เป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ มีความคาดหวังเป็นอย่างมากที่จะยกระดับการเจรจา โดยเขาหวังที่จะ "เดินหน้าเพื่อยุติประเด็นนิวเคลียร์ภายในระยะเวลาหนึ่งปี"
ภายในการประชุมกับบรรดารัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจาก 6 ประเทศ นายซารีฟย้ำว่า อิหร่านไม่มีเจตนาที่จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และเสริมว่า อิหร่านมีสิทธิ์ในการใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ อีกทั้งมีความตั้งใจที่จะเปิดทางให้ทางสำนักงานปรมาณูสากลเข้ามาตรวจสอบ
รมว.ของอิหร่านยังแสดงเจตจำนงค์ในการเปิดการร่วมเจรจาครั้งต่อไปร่วมกับทั้ง 6 ประเทศ และหวังว่าทั้ง 6 ประเทศนั้น จะมีมาตรการผ่อนปรนและยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่าน
นายรูฮานีและซารีฟ ซึ่งทั้งคู่อยู่ในนครนิวยอร์กเพื่อเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ต่างรู้สึกกังวลที่จะได้สรุปข้อตกลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เนื่องจากอิหร่านต้องการหลุดพ้นจากมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ
ทั้งนี้ นายรูฮานี ผู้ที่มีอุดมการณ์ต่างจากนายมาห์มุด อามาดิเนจ๊าด ประธานาธิบดีคนก่อนซึ่งยึดมั่นในหลักการ เปิดเผยว่า อิหร่านมีความมุ่งมั่นเพื่อเปิดการเจรจาด้วย "ศรัทธาอันดีและจิตใจเหมือนนักธุรกิจ" สำนักข่าวซินหัวรายงาน