สถานการณ์ยูเครนยังคุกรุ่น ขณะรัฐบาลไครเมียเดินหน้าทำประชามติเร็วๆนี้

นายอาร์เซนีย์ ยัตเซนยุค นายกรัฐมนตรียูเครนได้ออกมาเปิดเผยถึงแผนเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ ขณะที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ได้ให้การสนับสนุนรัฐบาลไครเมีย ซึ่งวางแผนจัดทำประชามติแยกดินแนดออกจากยูเครน เพื่อไปเข้าร่วมกับรัสเซียในวันที่ 16 มีนาคมนี้

ทั้งนี้ ทหารรัสเซียยังได้กักขังการ์ดชาวยูเครนที่ได้ตรวจตราอยู่บริเวณชายแดน หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัสเซียได้ยิงปืนเตือนขัดขวางไม่ให้คณะเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์จากโอเอสซีอีเข้าไปในเขตไครเมีย

รัสเซียได้ช่วงชิงอำนาจการปกครองในเขตไครเมียจากยูเครน หลังจากที่นายวิคเตอร์ ยานูโควิช อดีตผู้นำยูเครนที่สนับสนุนรัสเซียถูกขับไล่ออกไปในเดือนก่อนหน้า โดยทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐประเมินว่ารัสเซียมีกำลังทหารอยู่ในยูเครนราว 20,000 นาย ซึ่งมากกว่ากำลังทหารของยูเครนเป็นอย่างมาก ด้านรัฐบาลยูเครนก็ได้ยกระดับการป้องกันบริเวณชายแดนฝั่งตะวันออกที่ติดกับไครเมียเพื่อรับมือกับสถานการณ์อันรุนแรง

นายวิลเลียม เฮก รมว.ต่างประเทศของอังกฤษเปิดเผยกับสำนักข่าว BBC ว่า รัสเซียมีกองกำลังทหารอยู่ในไครเมียอย่างแน่นอน พร้อมชี้ถึงผลกระทบในระยะยาวซึ่งอาจส่งผลให้ชาวยูเครนร่วมใจกันต่อต้านอิทธิพลของรัสเซียในประเทศและในยุโรป

รัฐบาลอังกฤษได้เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ปธน.ปูตินได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลของเยอรมนี และนายกเดวิด คาเมรอนของอังกฤษ ซึ่งเขาได้แสดงความต้องการที่จะยุติวิกฤติดังกล่าวผ่านช่องทางการทางทูต โดยเขาเผยว่า จะร่วมหารือกับนายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เพื่อเปิดการเจรจากับผู้นำสหภาพยุโรปและรัฐบาลสหรัฐในการแก้ปัญหา