แถลงการณ์ในนามของอิหร่านและกลุ่มประเทศ P5+1 ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐ ฝรั่งเศส อังกฤษ รัสเซีย จีน และเยอรมนี ระบุว่า ในการเจรจาโครงการนิวเคลียร์ดังกล่าว ทุกฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงว่าขีดความสามารถและระดับการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม รวมถึงสต็อกแร่ยูเรเนียม จะถูกจำกัดในระยะเวลาเฉพาะ และจะไม่มีโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่อื่น นอกจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นาทานซ์ของอิหร่าน
ทั้งนี้ อิหร่านตกลงที่จะลดจำนวนเครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์ (centrifuge) ที่ติดตั้งไว้ ให้เหลือเพียง 6,104 ตัว จากจำนวนประมาณ 19,000 ตัว อีกทั้งจะระงับการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมซึ่งสูงกว่า 3.67% เป็นเวลาอย่างน้อย 15 ปี และลดปริมาณสต็อกยูเรเนียมสมรรถนะต่ำ (low-enriched uranium) จากประมาณ 10,000 กิโลกรัม ให้เหลือ 300 กิโลกรัมในช่วง 15 ปี
ข้อตกลงยังระบุด้วยว่า อิหร่านอนุญาตให้สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) เข้าตรวจสอบโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านทั้งหมดได้ตามปกติ และตกลงที่จะทำการออกแบบและสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลหนัก (heavy water reactor) ใหม่อีกรอบในเมืองอารัก ซึ่งเครื่องปฏิกรณ์ที่ได้รับการออกแบบใหม่นี้ จะไม่ผลิตพลูโตเนียมชนิดผลิตอาวุธ (weapons-grade plutonium)
นอกจากนี้ กรอบข้อตกลงยังให้เวลาอิหร่านในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมหรือพลูโตเนียมชนิดผลิตอาวุธจนเพียงพอ โดยระยะเวลาดังกล่าวยืดออกไปอย่างน้อย 1 ปีจากที่คาดการณ์ไว้ 2-3 เดือนในตอนนี้ ในระยะเวลาอย่างน้อย 10 ปี
นางเฟเดริกา มอเคอรินี ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรป (อียู) ฝ่ายกิจการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง กล่าวว่า "เราได้ดำเนินการอย่างแน่วแน่ ซึ่งทำให้เราสามารถหาข้อยุติในประเด็นที่สำคัญของแผนปฏิบัติการร่วมที่สมบูรณ์แบบในระยะยาว (JCPOA)
ผู้แทนระดับสูงของอียูเสริมว่า ทุกฝ่ายกำลังเขียนแผนการ JCPOA เพื่อสรุปรายละเอียดทางเทคนิคทั้งหมด ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันที่ 30 มิ.ย.
ทั้งนี้ อียูจะยุติการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินและทางเศรษฐกิจลำดับที่ 2 ซึ่งเกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ทั้งหมด
ด้านนายโมฮัมหมัด จาวาด ซาริฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านกล่าวภายหลังจากการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า "เราตัดสินใจเดินหน้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ที่ยังวิตกกังวลอยู่ ว่าโครงการนิวเคลียร์มีวัตถุประสงค์เพื่อสันติภาพโดยเฉพาะ ซึ่งคือสิ่งที่เป็นมาตลอดและจะเป็นไปเช่นนั้น"
นายซาริฟเสริมว่า "ผลลัพธ์ที่ทุกฝ่ายต่างได้ประโยชน์" คือก้าวสำคัญในการคลี่คลายประเด็นนิวเคลียร์ และหวังว่าการดำเนินการดังกล่าว จะช่วยคลี่คลายความคลางแคลงใจระหว่างอิหร่านและสหรัฐ
อย่างไรก็ดี รมว.ต่างประเทศอิหร่านกล่าวว่า "เราจะยังดำเนินการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมต่อไป รวมถึงจะวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง" สำนักข่าวซินหัวรายงาน