"ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้เกิดกระทบในด้านบวกด้านความมั่นคงในตะวันออกกลางอย่างแน่นอน รวมทั้งอิหร่านจะมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาและความขัดแย้งในภูมิภาค" กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุ
การแสดงความคิดเห็นของรัสเซียมีขึ้นหลังจากอิหร่านและกลุ่มประเทศ P5+1 ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐ ฝรั่งเศส อังกฤษ รัสเซีย จีน และเยอรมนี ได้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์
ทั้งนี้ กรอบข้อตกลงระบุว่า อิหร่านยินยอมที่จะลดจำนวนเครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์ (centrifuge) ที่ติดตั้งไว้ ให้เหลือเพียง 6,104 ตัว จากจำนวนประมาณ 19,000 ตัว อีกทั้งจะระงับการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมซึ่งสูงกว่า 3.67% เป็นเวลาอย่างน้อย 15 ปี และลดปริมาณสต็อกยูเรเนียมสมรรถนะต่ำ (low-enriched uranium) จากประมาณ 10,000 กิโลกรัม ให้เหลือ 300 กิโลกรัมในช่วง 15 ปี
นอกจากนี้ ข้อตกลงยังระบุด้วยว่า อิหร่านอนุญาตให้สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) เข้าตรวจสอบโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านทั้งหมดได้ตามปกติ และตกลงที่จะทำการออกแบบและสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลหนัก (heavy water reactor) ใหม่อีกรอบในเมืองอารัก ซึ่งเครื่องปฏิกรณ์ที่ได้รับการออกแบบใหม่นี้ จะไม่ผลิตพลูโตเนียมชนิดผลิตอาวุธ (weapons-grade plutonium)