เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ประกอบด้วยนายคิม ควอน จิน หัวหน้าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ และนายฮง ยอง เพียว รัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติ ด้านเกาหลีเหนือได้แก่ นายฮวาง เพียว โซ ผู้อำนวยการกรมการเมืองแห่งกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือ และนายคิม ยัง กอน เลขาธิการพรรคแรงงานของรัฐบาลเกาหลีเหนือ
แหล่งข่าวเผยว่า ผู้แทนเจรจาจากเกาหลีเหนือได้ขอให้กองทัพเกาหลีใต้ยุติการการกระจายเสียงโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านเกาหลีเหนือ ขณะที่ผู้แทนเจรจาของเกาหลีใต้ยืนกรานว่า ก่อนอื่นเกาหลีเหนือต้องยอมรับผิดชอบต่อกรณีการวางกับระเบิดตามแนวชายแดนจนเป็นเหตุให้ทหารเกาหลีใต้ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
อย่างไรก็ตาม แม้การหารือรอบสองยังคงดำเนินอยู่ในเวลานี้ แต่ถึงกระนั้นก็มีรายงานความเคลื่อนไหวด้านการทหารเพิ่มเติมจากทั้งสองฝั่ง โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เผยว่า 70% ของเรือดำน้ำเกาหลีเหนือ หรือประมาณ 50 ลำ ได้ออกจากฐานและหายไปจากจอเรดาร์ของกองทัพเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นจำนวนเกือบ 10 เท่าของระดับปกติ พร้อมทั้งยังได้สั่งเพิ่มจำนวนพลทหารปืนใหญ่ตามแนวชายแดนเป็น 2 เท่า เพื่อเตรียมการโจมตีหากการเจรจาล้มเหลว ด้านกองทัพเกาหลีใต้ได้ร่วมมือกับสหรัฐในการเพิ่มการตรวจตราทางทหารเพื่อเตรียมรับมือ และสั่งการให้เครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 จำนวน 6 ลำ บินกลับจากการฝึกที่อลาสก้า เพื่อมาประจำการที่ฐานทัพเกาหลีใต้
นอกจากนี้ สำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า หนุ่มสาวเกาหลีเหนือมากกว่า 1 ล้านคนพากันยื่นใบสมัครเข้าร่วมกองทัพเพื่อร่วมปกป้องประเทศ หลังนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของประกาศให้ทหารแนวหน้าติดชายแดนเกาหลีใต้เตรียมเข้าสู่ภาวะสงคราม
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเจรจาระดับสูงรอบสองระหว่างสองประเทศนั้นยังไม่เป็นที่เปิดเผยในขณะนี้