ผลสำรวจดังกล่าวเปิดเผยว่า หากมีการลงประชามติเพื่อตัดสินใจว่าอังกฤษจะยังคงเป็นสมาชิกของ EU ต่อไปหรือไม่นั้น ชาวอังกฤษราว 51% ก็พร้อมที่จะลงคะแนนเสียงว่า "ไม่"
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ชาวอังกฤษเกิน 50% มีความคิดเห็นว่าอังกฤษควรออกจาก EU โดยมีการระบุว่าวิกฤตผู้อพยพในปัจจุบันเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดกระแสต่อต้านการเป็นสมาชิก EU
ผลสำรวจ ซึ่งหนังสือพิมพ์มองว่า "น่าตกใจ" นั้น เกิดขึ้น 24 ชั่วโมงก่อนที่รัฐสภาอังกฤษจะเปิดสมัยการประชุมหลังหยุดช่วงฤดูร้อน โดยคาดว่านายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษ จะต้องเผชิญกับคำถามมากมายเกี่ยวกับการอพยพเข้าเมืองในระหว่างที่มีการอภิปรายกันอย่างยืดเยื้อว่าด้วยแผนการลงประชามติเกี่ยวกับการเป็นสมาชิก EU
นายพอล นัตทอล รองผู้นำพรรค United Kingdom Independence Party (UKIP) ของอังกฤษที่มีนโยบายต่อต้าน EU เปิดเผยต่อสำนักข่าวซินหัวว่า "ผลของการสำรวจครั้งนี้ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับผม เนื่องจากเราได้มีการพูดกันมาระยะหนึ่งแล้วว่าประเด็นผู้อพยพจะเป็นประเด็นสำคัญในระหว่างการรณรงค์เกี่ยวกับการทำประชามติ เราคาดว่าจำนวนผู้ที่ต้องการออกจาก EU จะเพิ่มสูงขึ้น"
จนถึงขณะนี้ ผลสำรวจในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้สร้างความผ่อนคลายแก่ฝ่ายที่สนับสนุน EU โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายคาเมรอน ซึ่งได้ให้คำมั่นในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดว่าจะจัดการลงประชามติอย่างตรงไปตรงมา ขณะที่มีการคาดการณ์กันในวงกว้างว่าการลงประชามติจะมีขึ้นในปีหน้าหรือปี 2560 โดยผลโหวตจะยังคงให้อังกฤษเป็นสมาชิก EU ต่อไป สำนักข่าวซินหัวรายงาน