นายจอช เออร์เนส โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า "เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างรอบคอบ รัฐบาลสหรัฐจึงได้เริ่มวางแผนเพื่อรับมือหากรัฐบาลจำเป็นต้องชัตดาวน์"
รัฐบาลสหรัฐจำเป็นต้องปิดหน่วยงานบางส่วน หรือ ชัตดาวน์ ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ หากทางสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านกฎหมายจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2559 ได้ตามเส้นตาย
ขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติพรรครีพับลิกันเล็งคัดค้านร่างกฎหมายที่ให้การสนับสนุน Planned Parenthood อันเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านอนามัยการเจริญพันธุ์รวมถึงการอนามัยแม่และเด็ก ทางฝั่งพรรคเดโมแครตก็พร้อมคัดค้านร่างกฎหมายที่มุ่งเป้าไปยังองค์กรดังกล่าว
ก่อนหน้านี้สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อาวุโส "ย้ำเตือนหน่วยงานของตนต่อหน้าที่ในการทบทวนและปรับปรุงแผนการชัตดาวน์อย่างเป็นระเบียบ"
ประเด็นพิพาทในการถอนการสนับสนุนองค์กร Planned Parenthood นั้น เกิดขึ้นหลังเกิดการโต้เถียงอย่างรุนแรงในเรื่องของการใช้ทารกแท้งในการวิจัยทางการแพทย์ จนก่อตัวเป็นความขัดแย้งภายในพรรครีพับลิกันระหว่างฝ่ายหัวอนุรักษ์นิยมกับฝ่ายผู้นำทั้งในสภาผู้แทนฯและวุฒิสภา
นอกจากนี้ ประเด็นดังกล่าวยังทำให้นายจอห์น โบห์เนอร์ ต้องเสี่ยงพ้นจากเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากฝ่ายหัวอนุรักษ์นิยมในพรรครีพับลิกันได้ขู่ขับไล่นายโบห์เนอร์ออกจากตำแหน่งหลังประสบความล้มเหลวในการล้มเลิกการสนับสนุนองค์กร Planned Parenthood
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้สั่งชัตดาวน์เป็นเวลา 16 วันเมื่อปี 2556 เนื่องจากสภาคองเกรสประสบความล้มเหลวในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณ หลังพรรครีพับลิกันได้ออกมาโจมตีกฎหมาย Patient Protection and Affordable Care Act หรือกฎหมายประกันสุขภาพที่เรียกกันว่า "โอบามาแคร์" (Obamacare) สำนักข่าวซินหัวรายงาน